ศูนย์ข่าวศรีราชา - เกิดเหตุรถพ่วง 18 ล้อ พุ่งชนท้ายรถบรรทุกน้ำมัน บนถนนมอเตอร์เวย์ บริเวณหลัก กม.ที่ 47-48 (47+600) ก่อนข้ามสะพานแม่น้ำบางปะกง จนเกิดเพลิงลุกท่วมรถทั้ง 2 คัน โชคดีคนขับรถพ่วงคันก่อเหตุได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนคนขับรถบรรทุกน้ำมันหนีตายได้หวุดหวิด เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาควบคุมเพลิง และสถานการณ์นานกว่า 3 ชม. จึงสงบ ขณะที่การจราจรบริเวณดังกล่าวติดขัดอย่างหนักช่วงเกิดเหตุ
เมื่อเวลา 01.00 น. วันนี้ (23 พ.ย.) ร.ต.ท.ประดิษฐ์ ขุนนุ้ย ร้อยเวรสอบสวน หน่วยสอบสวนทางหลวงพิเศษ จุดพักรถเขาดิน สาย 7 มอเตอร์เวย์ กรุงเทพฯ-พัทยา สังกัด สทล.1 กก.8 บก.ทล. ได้รับแจ้งอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วง พุ่งชนท้ายรถบรรทุกน้ำมัน จนเกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง บริเวณหลัก กม.ที่ 47-48 (47+600) ก่อนข้ามสะพานแม่น้ำบางปะกง เขตพื้นที่ ต.ท่าสะอ้าน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา จึงเดินทางไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์บรรทุกพ่วง 18 ล้อ บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ยี่ห้อมิตซูบิชิ หมายเลขทะเบียนหัวลาก 72-2858 ชลบุรี ส่วนพ่วงทะเบียน 71-9021 ชลบุรี โดยบริเวณส่วนหัวลากกำลังถูกเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง สภาพรถจอดหยุดในลักษณะทแยงติดกับกำแพงขอบทางด้านขวา ส่วนด้านท้ายของตัวรถเฉียงออกมาอยู่ในช่องจราจรที่ 2
ส่วนบริเวณช่องจราจรซ้ายสุด พบรถบรรทุกน้ำมันแบบพ่วง 18 ล้อเช่นเดียวกัน หมายเลขทะเบียนหัวลาก 70-0834 กำแพงเพชร กำลังถูกเปลวเพลิงลุกไหม้อย่างหนัก โดยที่บริเวณส่วนท้ายรถพ่วงถูกแรงพุ่งชนจนป้ายทะเบียนสูญหาย
จากการสอบสวนทราบชื่อคนขับรถพ่วงบรรทุกน้ำมัน คือ นายเอกชัย ซันกุล อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72/36 ม.6 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พนักงาน หจก.ศรีนครคลองขลุงขนส่ง จ.กำแพงเพชร
ส่วนคนขับรถบรรทุกพ่วงคอนเทนเนอร์ทราบชื่อเพียง นายสมพงษ์ ไม่ทราบนามสกุล ได้รับบาดเจ็บจากเศษกระจกบาดบริเวณใบหน้า ถูกนำ รพ.จุฬารัตน์ 11 อ.บางปะกง ไปก่อนหน้า
นายเอกชัย เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 00.30 น. ได้ขับรถพ่วงบรรทุกน้ำมันเบนซินชนิด อี 85 จำนวน 12,000 ลิตร และน้ำมันดีเซลอีก 6,000 ลิตร ออกจากบริษัทสยามเคมีฯ ในเขต อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เพื่อไปส่งยังปั๊มน้ำมันเพียว ใน อ.แกลง จ.ระยอง แต่เมื่อมาถึงยังจุดเกิดเหตุรถได้เกิดปัญหาเกี่ยวกับระบบคลัตช์ จนไม่มีแรงลากจูง และไม่สามารถขับรถขึ้นสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกงได้ จึงทำการถอยรถเข้าจอดชิดขอบทางด้านซ้ายสุด พร้อมเปิดสัญญาณไฟฉุกเฉิน และวางกรวยยางห่างจากตัวรถออกไปประมาณ 200 เมตร ก่อนจะกลับขึ้นมานั่งรอเวลาอยู่บนรถ
แต่หลังจากนั้นประมาณ 30 นาที ได้มีรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อคู่กรณี ขับเข้าพุ่งชนบริเวณด้านท้ายรถจนเกิดเพลิงลุกไหม้ที่ส่วนหัวรถพ่วงคู่กรณี และบริเวณส่วนหางพ่วงด้านท้ายรถของตน แต่โชคดีที่คนขับรถพ่วงคู่กรณีกระโดดลงจากรถได้ทันใน สภาพได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้า เนื่องจากถูกเศษกระจกบาด ส่วนตนเองไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
ด้านนายสมพงษ์ คนขับรถพ่วงคันก่อเหตุกล่าวยอมรับว่า ได้เกิดอาการหลับในหลังมีอาการง่วงนอนมาตลอดทาง
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า อุบัติเหตุดังกล่าวได้ส่งผลให้เกิดความแออัดด้านการจราจรบนถนนสายมอเตอร์เวย์อย่างหนัก จนมีรถยนต์ติดขัดเป็นระยะทางยาวนับ 10 กม. เนื่องจากเป็นช่วงที่ประชาชนกำลังเดินทางออกจาก กทม. โดยช่วงเกิดเหตุยังมีเสียงล้อยางรถยนต์ที่ถูกเพลิงไหม้ระเบิดเป็นระยะ เจ้าหน้าที่ต้องทำการปิดกั้นการจราจรทั้ง 2 ด้านในช่วงแรก ทั้งฝั่งขาออก และขาเข้า กทม.
โดยหน่วยงานท้องถิ่นในพื้นที่ใกล้เคียงได้ช่วยสนับสนุนรถบรรทุกน้ำ และรถดับเพลิงเคมีนับ 10 คัน เพื่อควบคุมเพลิง รวมทั้งน้ำมันเบนซิน อี 85 ที่ไหลทะลักออกมาจากถังบรรจุ และพุ่งลงสู่พื้นถนน จนทำให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องฉีดน้ำเลี้ยงพื้นที่โดยรอบเพื่อไม่ให้เปลวเพลิงกลับมาโหมลุกไหม้ซ้ำอีกครั้ง โดยใช้เวลาในการฉีดน้ำ และควบคุมพื้นที่นานกว่า 3 ชม. สถานการณ์จึงสงบ