xs
xsm
sm
md
lg

SMPC หวนเทรดอีกครั้งวันแรกราคาหุ้นพุ่งสุดๆ 1,845.95%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สหมิตรถังแก๊ส” กลับมาเทรดวันแรกได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างล้นหลาม ราคาหุ้นพุ่งสุดๆ 1,845.95% โดยเปิดการซื้อขายที่ระดับราคา 23 บาท ก่อนปรับเคลื่อนไหวสูงสุดของวันที่ 36 บาท คิดเป็นการปรับเพิ่มขึ้น 34.15 บาท เมื่อเทียบกับการซื้อขายวันสุดท้าย เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2548 ราคาหุ้นปิดตลาดที่ 1.85 บาท มูลค่าที่ตราไว้ 10 บาทต่อหุ้น

นายสุรศักดิ์ เอิบสิริสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหมิตรถังแก๊ส จำกัด (มหาชน) หรือ SMPC ประกอบธุรกิจผลิตถังทนความดันแบบต่างๆ โดยผลิตภัณฑ์หลักเป็นถังสำหรับบรรจุแก๊สปิโตรเลียมเหลว (LPG) เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงหุงต้ม และสำหรับใช้เป็นแหล่งพลังงานรถยนต์ โดยจำหน่ายภายใน และต่างประเทศ ภายใต้เครื่องหมายการค้า “SMPC” รวมทั้งรับจ้างผลิตภายใต้เครื่องหมายการค้าต่างๆ เปิดเผยถึงการกลับเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เป็นวันแรกว่า รู้สึกยินดี และภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่บริษัทฯ ได้กลับเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งการกลับเข้าซื้อขายในครั้งนี้
 
บริษัทฯ โดยฝ่ายบริหารตั้งเป้าหมายในการบริหารจัดการโดยเน้นการประกอบธุรกิจหลักคือ การผลิต และจำหน่ายถังทนความดัน (ถังแก๊ส) ที่ใช้ในครัวเรือนอุตสาหกรรม และรถยนต์ โดยเชื่อว่าปัจจัยที่ทำให้หุ้นได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างอบอุ่นในครั้งนี้ คาดว่าเป็นเพราะมีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง มีทิศทางการเติบโตในอัตราที่โดดเด่นชัดเจน ทั้งนี้ ราคาหลักทรัพย์ของบริษัท สหมิตรถังแก๊ส จำกัด (มหาชน) หรือ SMPC เมื่อทำการซื้อขายวันสุดท้ายวันที่ 13 พฤศจิกายน 2548 ปิดตลาดที่ 1.85 บาท มูลค่าที่ตราไว้ 10 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้ ในการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยวันที่ 11 พฤศจิกายน 2556 นี้ ซึ่งเป็นวันแรกไม่มีการกำหนดกรอบราคา ราคาหลักทรัพย์ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเกินความคาดหมาย โดยเปิดการซื้อขายที่ระดับราคา 23 บาท ก่อนราคาหุ้นเคลื่อนไหวสูงสุดของวันที่ 36 บาท ปรับเพิ่มขึ้น 34.15 บาท คิดเป็นการเปลี่ยนแปลง1,845.95% จากราคาปิดตลาดเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2548 โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวม 557.93 ล้านบาท ถือเป็นการปิดม่านการซื้อขายวันแรกได้อย่างสวยงาม

“เมื่อวันที่ 31 ต.ค.2556 ที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประกาศอนุญาตให้บริษัทฯ พ้นเหตุอาจถูกเพิกถอนโดยปลดเครื่องหมาย “SP” (Suspension) และ “NC” (Non-Compliance) รวมทั้งย้ายหลักทรัพย์ SMPC ออกจากกลุ่มบริษัทจดทะเบียนที่แก้ไขการดำเนินงานไม่ได้ตามกำหนด (Non- Performing Group: NPG) และอนุญาตให้ซื้อขายหลักทรัพย์ของ SMPC ในกลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุตสาหกรรมหมวดอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ได้ตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน 2556 โดยไม่มีการกำหนดกรอบราคาสูงสุดและต่ำสุด (ceiling & floor)”

ก่อนหน้านี้ นายสุรศักดิ์ กล่าวว่า ทีมผู้บริหารมุ่งสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งให้บริษัทฯ เพื่อผลตอบแทนที่ดีที่สุดแก่ผู้ถือหุ้นที่ให้การไว้วางใจ SMPC ตลอดมา โดยในปี 2557 บริษัทฯ วางเป้ารายได้เติบโต 15% และยังคงรักษาอัตราการเติบโตไว้ในระดับนี้ในระยะ 2-3 ปี ข้างหน้า หลังลงทุนเพิ่มกำลังผลิตโรงงานแห่งใหม่เพื่อรองรับออเดอร์จากลูกค้า

สำหรับผลประกอบการงวด 9 เดือน (มกราคม-กันยายน) ของปี 2556 บริษัทฯ มียอดขาย 1,498.67 ล้านบาท กำไรสุทธิ 100.85 ล้านบาท โดยลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มียอดขาย 1,742.09 ล้านบาท กำไรสุทธิ 145.96 ล้านบาท โดยสาเหตุหลักมาจากค่าเงินบาทที่แข็งขึ้น ประกอบกับมีการเลื่อนคำสั่งซื้อจากลูกค้าบางราย ส่งผลกระทบต่อยอดขายที่ลดลง อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการในช่วงตั้งแต่ไตรมาส 2/2556 เป็นต้นมา กลับสู่ภาวะปกติทั้งในแง่รายได้และกำไร คาดว่าทั้งปีนี้รายได้จะใกล้เคียงกับปีก่อน นอกจากนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างดำเนินการขออนุมัติต่อผู้ถือหุ้นเพื่อล้างขาดทุนสะสม ณ สิ้นไตรมาส 3/2556 จำนวน 44.88 ล้านบาท โดยจะจัดให้มีการประชุมผู้ถือหุ้นในเรื่องดังกล่าววันที่ 13 ธ.ค.2556 นี้


กำลังโหลดความคิดเห็น