SCB มั่นใจรายได้ค่าธรรมเนียมปีนี้โต เผยรับเต็มดีลไอบีใหญ่หลายราย สำหรับด้านสินเชื่อในปีนี้อาจเติบโตไม่มาก พร้อมเชื่อว่าลูกค้าจะหันมาใช้การระดมทุนผ่านตลาดทุนค่อนข้างมากขึ้น
นายอาทิตย์ นันทะวิทยา รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB เปิดเผยว่า ปีนี้มีดีลลูกค้ารายใหญ่ในธุรกิจที่ปรึกษาทางการเงิน (ไอบี) หลายราย มูลค่ารวมประมาณกว่า 3 แสนล้านบาท เช่น Infrastructure Fund, ดีลซื้อหุ้นบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO และหุ้นกู้บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL ส่งผลให้รายได้จากค่าธรรมเนียมของธุรกิจรายใหญ่ในปีนี้เติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก
สำหรับด้านสินเชื่อในปีนี้อาจเติบโตไม่มาก คาดว่าจะเป็นตัวเลขหลักเดียว ทำให้สัดส่วนรายได้ระหว่างรายได้ดอกเบี้ย และรายได้จากค่าธรรมเนียมของธุรกิจรายใหญ่อยู่ที่สัดส่วน 50% เท่ากัน เทียบจากเมื่อ 5 ปีก่อน รายได้ดอกเบี้ยอยู่ที่ 65% และค่าธรรมเนียม 35% และปัจจุบันพอร์ตสินเชื่อรายใหญ่อยู่ที่ 5.9 แสนล้านบาท และคาดว่าสิ้นปีนี้จะอยู่ที่ 6 แสนล้านบาท
ทั้งนี้ เชื่อว่าลูกค้าจะหันมาใช้การระดมทุนผ่านตลาดทุนค่อนข้างมาก ซึ่งธนาคารจะให้ความสำคัญในการเป็นที่ปรึกษา ในการปรับโครงสร้างเงินทุนให้แก่ลูกค้า ขณะที่แนวโน้มการระดมทุนในปีหน้าจะเห็นการออกกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ค่อนข้างมาก รวมถึงการออกกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund) สำหรับการประมูลทีวีดิจิตอล ขณะนี้ได้มีการเข้าไปคุยกับผู้ประกอบการเข้าประมูลอยู่ 2-3 ราย เพื่อที่จะเข้าไปปล่อยกู้ลงทุนในโครงการดังกล่าว
นายอาทิตย์ นันทะวิทยา รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB เปิดเผยว่า ปีนี้มีดีลลูกค้ารายใหญ่ในธุรกิจที่ปรึกษาทางการเงิน (ไอบี) หลายราย มูลค่ารวมประมาณกว่า 3 แสนล้านบาท เช่น Infrastructure Fund, ดีลซื้อหุ้นบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO และหุ้นกู้บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL ส่งผลให้รายได้จากค่าธรรมเนียมของธุรกิจรายใหญ่ในปีนี้เติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก
สำหรับด้านสินเชื่อในปีนี้อาจเติบโตไม่มาก คาดว่าจะเป็นตัวเลขหลักเดียว ทำให้สัดส่วนรายได้ระหว่างรายได้ดอกเบี้ย และรายได้จากค่าธรรมเนียมของธุรกิจรายใหญ่อยู่ที่สัดส่วน 50% เท่ากัน เทียบจากเมื่อ 5 ปีก่อน รายได้ดอกเบี้ยอยู่ที่ 65% และค่าธรรมเนียม 35% และปัจจุบันพอร์ตสินเชื่อรายใหญ่อยู่ที่ 5.9 แสนล้านบาท และคาดว่าสิ้นปีนี้จะอยู่ที่ 6 แสนล้านบาท
ทั้งนี้ เชื่อว่าลูกค้าจะหันมาใช้การระดมทุนผ่านตลาดทุนค่อนข้างมาก ซึ่งธนาคารจะให้ความสำคัญในการเป็นที่ปรึกษา ในการปรับโครงสร้างเงินทุนให้แก่ลูกค้า ขณะที่แนวโน้มการระดมทุนในปีหน้าจะเห็นการออกกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ค่อนข้างมาก รวมถึงการออกกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund) สำหรับการประมูลทีวีดิจิตอล ขณะนี้ได้มีการเข้าไปคุยกับผู้ประกอบการเข้าประมูลอยู่ 2-3 ราย เพื่อที่จะเข้าไปปล่อยกู้ลงทุนในโครงการดังกล่าว