“โกลว์ พลังงาน” โกยกำไรไตรมาส 3 ปีนี้ 1,922 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 82.39 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 4.47% จากงวดนี้ปีก่อน ขณะที่งวด 9 เดือน 56 กำไรเพิ่มขึ้นกว่า 45% เหตุยอดขายไฟฟ้าพุ่ง และต้นทุนส่วนใหญ่ลดลง
นายณัฐพรรษ ตันบุญเอก ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินและนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) หรือ GLOW แจ้งผลงานไตรมาส 3 ปีนี้ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,922.58 ล้านบาท ขณะที่งวดนี้ปีก่อนมีกำไรสุทธิ 1,840.19 ล้านบาท หรือกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 82.39 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 4.47% ขณะที่งวด 9 เดือนปีนี้ บริษัทมีกำไรสุทธิ 5,632.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดนี้ปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 3,883.24 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1,748.81 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 45.03%
โดย 9 เดือนปี 56 บริษัทมีรายได้จากการขายและการให้บริการ (รวมรายได้อื่นๆ) ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 25.0% หรือจาก 41,692.7 ล้านบาท ใน 9 เดือนแรกของปี 2555 เป็น 52,115.5 ล้านบาท ในปี 56 มียอดจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่ กฟผ. ภายใต้สัญญาผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ 19,963.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 67.6% อันเป็นผลจากยอดจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่ กฟผ. ของโรงไฟฟ้าเก็คโค่-วัน ที่ใช้ถ่านหินเป็นเชื้้อเพลิงภายใต้สัญญาผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ขนาด 660 เมกะวัตต์ ที่ได้เริ่มดำเนินงานเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2555 รวมถึงความพร้อมจ่าย และปริมาณการจำหน่ายไฟฟ้าที่สูงขึ้น ของ บจ.โกลว์ ไอพีพี จากการที่มีการซ่อมบำรุงตามแผนในเดือนมกราคม ถึง เดือนมีนาคม ปี 2555
นอกจากนี้ ยังมียอดจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่ กฟผ. ภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้าผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก 13,890.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.8% รวมทั้งยอดจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่ลูกค้าอุตสาหกรรม 11,835.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.4% โดยมีสาเหตุหลักจากอัตราค่าไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นจากปรับอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร แม้ว่าปริมาณจำหน่ายไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2% ก็ตาม อีกทั้งยอดจำหน่ายไอน้ำให้แก่ลูกค้าอุตสาหกรรม 5,891.3 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 10% อันเป็นผลจากราคาค่าไอน้ำสูงขึ้นจากราคาค่าก๊าซที่เพิ่มขึ้น และยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อื่นๆ ก็เพิ่มขึ้น แม้รายได้อื่นจะลดลงก็ตาม
โดยงวด 9 เดือนแรกปีนี้ บริษัทมีต้นทุนขายปรับตัวเพิ่มขึ้น 22.8% หรือจาก 34,037.2 ล้านบาท ใน 9 เดือนแรกของปี 2555 เป็น 41,785.6 ล้านบาท ใน 9 เดือนแรกของปี 2556 เพราะต้นทุนค่าเชื้อเพลิงล้วนเพิ่้มขึ้น ทั้งต้นทุนเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติของโรงผลิตไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม และไอน้ำ ต้นทุนเชื้อเพลิงถ่านหินของธุรกิจไอพีพี ขณะที่ต้นทุนเชื้อเพลิงถ่านหินของโรงผลิตไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมและไอน้ำลดลงผลจากราคาถ่านหินที่ปรับตัวลดลง ส่วนต้นทุนค่าซ่อมบำรุงของธุรกิจไอพีพีปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่วนต้นทุนซ่อมบารุงของโรงผลิตไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมและไอน้ำลดลง ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารปรับเพิ่มขึ้น
สำหรับต้นทุนการเงินปรับเพิ่มขึ้น อันเป็นผลมาจากต้นทุนทางการเงินหลักประกอบด้วยดอกเบี้ยจ่าย และค่าธรรมเนียมทางการเงิน ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้นของดอกเบี้ยจ่ายมีสาเหตุหลักจากดอกเบี้ยจ่ายของโรงไฟฟ้าเก็คโค่-วัน และโกลว์ เอสพีพี 12 ที่ไม่ได้ถูกบันทึกเป็นต้นทุนสินทรัพย์ (Capitalization) หลังจากได้เริ่มดำเนินการเมื่อเดือนสิงหาคม 2555 และเดือนธันวาคม 2555 ตามลำดับ
โดย 9 เดือนแรกปีนี้ บริษัทมีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิ 222.32 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี 116.5 ล้านบาท ทำให้บริษัทมี Normalized Net Profit 5,970.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 66.2% จาก 3,592.6 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปี 2555 ซึ่ง Normalized Net Profit ดังกล่าวใช้เป็นแนวทางในการกำหนดการจ่ายเงินปันผล