xs
xsm
sm
md
lg

2 อดีตขุนคลัง ถล่ม “จำนำข้าว” เป็นนโยบายที่ผิดพลาด ตัวเลขเจ๊งสูงจนน่าตกใจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


2 อดีตขุนคลัง ถล่มซ้ำ “จำนำข้าว” เป็นนโยบายที่ผิดพลาด “ทนง” เผยตัวเลขขาดทุนหลายแสนล้านดูแล้วน่าตกใจมาก เพราะหากนำเงินดังกล่าวมาชดเชยซื้อเครื่องมือ-เครื่องจักรทางการเกษตร จะสามารถแจกได้ทุกหมู่บ้าน “กรณ์” เผยเงินที่เจ๊งก้อนใหญ่ 4.2 แสนล้าน สามารถนำไปลงทุนโครงการ 2 ล้านล้านบาท โดยไม่ต้องไปกู้เงิน

สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ จัดงานสัมมนา “จับชีพจรประเทศไทย” นายทนง พิทยะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ทิศทางเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในภาวะชะลอตัว แม้จะขยายตัวได้บ้าง แต่กลับเติบโตได้น้อยกว่าประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากปัจจัยภายนอกประเทศ เพราะเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และยุโรปมีปัญหาจึงกระทบต่อการส่งออกของไทย

ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศมาจากนโยบายด้านเศรษฐกิจมีปัญหา เพราะไทยไม่มีปัญหาขาดแคลนแรงงาน และยังต้องนำแรงงานต่างด้าวมาช่วยงานเพิ่ม อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ ทำให้ต้นทุนไม่สูง แต่เศรษฐกิจยังเติบโตได้น้อย การใช้นโยบายประชานิยมฉีดเงินเข้าระบบหวังให้ประชาชนบริโภคแต่ไม่มีการใช้จ่ายเพิ่ม จึงเป็นนโยบายที่ไม่ได้ผล

ดังนั้น รัฐบาลควรหันมาใช้งบประมาณด้านการเพิ่มขีดความสามารถ การเพิ่มศักยภาพการผลิต เพราะได้ละเลยมานาน โดยต้องพัฒนาเอสเอ็มอีภาคเกษตร เช่น การส่งออกสินค้าเกษตรที่มีมูลค่าเพิ่ม เพราะหากยังส่งออกสินค้าเกษตรพื้นฐานที่เป็นผลผลิตจะสู่ประเทศเพื่อนบ้าน จะทำไม่ได้แล้ว เพราะ ลาว กัมพูชา เวียดนาม ได้ปลูกข้าว สินค้าเกษตรอื่นเหมือนกับไทยแล้ว จึงต้องหันไปส่งออกด้วยการพัฒนาสินค้าให้มีมูลค่าเพิ่มแทน โดยต้องตัดสินใจลงมือทำอย่างเร่งด่วน เพราะขณะนี้ต่างชาติเข้ามาลงทุนภาคอุตสาหกรรมในประเทศไทยน้อยลง เนื่องจากต้นทุนสูงจากค่าแรง 300 บาท อสังหาฯ ราคาสูงขึ้น ต่างชาติจึงหันไปลงทุนในอินโดนีเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ ไทยจึงต้องเร่งปรับกลยุทธ์การลงทุนเพื่อปรับทิศทางของประเทศ

สำหรับแนวทางการรับจำนำข้าว มองว่าเป็นนโยบายที่ผิดพลาด เพราะการขาดทุนนับแสนล้านบาท มองดูตัวเลขแล้วยอมรับว่าตกใจมาก เพราะหากนำเงินดังกล่าวมาชดเชยซื้อเครื่องมือ เครื่องจักรทางการเกษตร เพื่อศัยภาพการผลิต หวังลดแรงงานทางการเกษตรเปลี่ยนไปทำงานด้านบริการ ภาคการท่องเที่ยว จะสามารถแจกเครื่องจักรได้ทุกหมู่บ้าน จึงมองว่าการจำนำข้าวไม่มีความจำเป็นในปัจจุบัน

ส่วนเรื่องการขยายเพดานหนี้ของสหรัฐฯ นั้น เป็นการต่อรองระหว่าง 2 พรรคการเมืองของสหรัฐฯ เพื่อรักษาระดับดอกเบี้ยไม่ให้สูงขึ้น แต่สิ่งที่เป็นกังวลคือ การขยายเวลาการชะลอมาตรการอัดฉีดเงินออกสู่ระบบ (QE) จะส่งผลต่อเงินทุนไหลเข้าออกประเทศไทย จนกระทบต่อค่าเงินบาท ทำให้ ธปท. ต้องดูแลไม่ให้ค่าเงินผันผวนจนกระทบต่ออากรส่งออก เพราะมองว่าหากรักษาให้อยู่ในระดับ 32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ยังรักษาระดับการส่งออกให้ขยายตัวได้

นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรัฐมนตรีคลัง และแกนนำพรรคฝ่ายค้านกล่าวว่า การขาดทุนจากรับจำนำข้าว 4.2 แสนล้านบาท นับว่าเป็นเงินก้อนใหญ่สัดส่วนสูงถึงร้อยละ 4 ของจีดีพี สามารถนำเงินดังกล่าวไปลงทุนในโครงการ 2 ล้านล้านบาท ได้โดยไม่ต้องกู้เงิน ดังนั้น หากยังไม่ยกเลิกการรับจำนำจะต้องจัดสรรงบประมาณชดเชยการรับจำนำข้าวสูงถึง 3 แสนล้านบาทต่อปี เพื่อมาใช้จำนำข้าวเปลือก หากไม่ทบทวนจะมีปัญหาต่อภาระงบประมาณอย่างแน่นอน และจะทำให้นโยบายงบประมาณสมดุลทำได้ยากขึ้น

ส่วนกรณีปัญหาเศรษฐกิจในสหรัฐฯ การขยายเพดานหนี้เป็นสิ่งที่ดำเนินการเป็นประจำอยู่แล้ว จึงเป็นบทเรียนแก่ประเทศไทยในการกู้เงินลงทุน 2 ล้านล้านบาท แต่ปัญหาของสหรัฐฯ จะส่งผลต่อหลายประเทศที่ใช้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ้างอิงในทุนสำรอง ทำให้ต้องกลับมาทบทวนว่าจะใช้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นสกุลหลักในทุนสำรองต่อไปหรือไม่

นายสมพล เกียรติไพบูลย์ อดีตประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า การคอร์รัปชันในปัจจุบันเกิดขึ้นอย่างแยบยลมากขึ้น มีทั้งกลโกง ฉ้อฉล มีความหมายมากกว่าการฉ้อราษฎร์บังหลวงในอดีต เพราะทุกส่วนหวังตักตวงผลประโยชน์ แม้กระทั่งการโกหกประชาชนในการดำเนินนโยบายผิดพลาดยังถือว่าเป็นการคอร์รัปชัน

นายสมพล ยอมรับว่าคนไทยในปัจจุบันมองว่าเงินสร้างอำนาจ อำนาจสร้างเงิน โดยไม่สนใจว่าได้เงิน ได้อำนาจมาอย่างไร ทุกคนจึงไขว่คว้าหาวัตถุนิยม จึงมุ่งทุจริต ฉ้อโกง ค้ายา เพื่อหารายได้โดยไม่สุจริต ด้วยกลไกแบบต่างๆ จึงขอเรียกร้องให้สังคมช่วยป้องกัน เพราะถือเป็นการบ่อนทำลายเศรษฐกิจของประเทศ
กำลังโหลดความคิดเห็น