หุ้นไทยปิดบวกไม่ถึง 1 จุด ดัชนีแกว่งในกรอบแคบ เนื่องจากตลาดยังรอดูประเด็นการเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ขณะที่ปัจจัยการเมืองในประเทศเริ่มมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น กังวลประกาศ พ.ร.บ.ทุบม็อบ สถานการณ์บ่งชี้การใช้ความรุนแรง นอกจากนี้ กรณีน้ำท่วมหลายพื้นที่ อาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมได้
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (9 ต.ค.) ดัชนีปิดตลาดที่ระดับ 1,434.66 จุด เพิ่มขึ้น 0.60 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.04% มูลค่าการซื้อขาย 34,034.28 ล้านบาท ด้านสัดส่วนการลงทุน นักลงทุนสถาบัน ขายสุทธิ 517.39 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ 141.14 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 441.75 ล้านบาท นักลงทุนภายในประเทศ ซื้อสุทธิ 817.99 ล้านบาท
นักวิเคราะห์ระบุว่า ภาพรวมตลาดวันนี้ดัชนีแกว่งตัวในกรอบแคบ เนื่องจากตลาดยังรอดูประเด็นการเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ขณะที่ปัจจัยการเมืองในประเทศ เริ่มมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น หลังรัฐบาลเตรียมประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง 3 เขตในกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นพื้นที่เดิม ซึ่งเพิ่มแรงกดดันให้ตลาดฯ เพราะสถานการณ์เริ่มส่อเค้าของการใช้ความรุนแรง
ส่วนกรณีเพดานหนี้สหรัฐฯ นักวิเคราะห์เชื่อว่าน่าจะจบลงด้วยดี และทำให้หุ้นไทยปรับตัวขึ้นต่อได้ สำหรับการปรับลดประมาณการจีดีพีโลกในปีนี้ และปีหน้าของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) มองว่า เป็นการปรับลดลงตามโบรกเกอร์ และหน่วยงานอื่นๆ ที่ทยอยปรับลงมาก่อนหน้านี้แล้ว
ด้านแนวโน้มตลาดหุ้นวันพรุ่งนี้ คาดว่าดัชนีน่าจะแกว่งแคบๆ หากไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามากระทบ มองแนวรับ 1,430 จุดและแนวต้าน 1,440-1,445 จุด
ด้านนายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์ตลาดทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน ยอมรับว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ ภาพรวมยังซึมๆ เพราะไม่มีปัจจัยอะไรที่เด่นชัด ยังเป็นเรื่องเดิมของสหรัฐ ทั้งเรื่องงบประมาณ และเพิ่มเพดานหนี้ ที่ยังไม่มีอะไรคืบหน้า
ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศ กรณีน้ำท่วมหลายพื้นที่อาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมได้ ส่วนการซื้อขายของนักลงทุนต่างชาติ ยังชะลอการลงทุน เนื่องจากยังต้องรอดูปัจจัยเกี่ยวกับการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของสหรัฐ การซื้อขายวันนี้ เป็นการเลือกเก็งกำไรในหุ้นรายตัวที่มีข่าวสนับสนุน เช่น หุ้นบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE ที่จะจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน เป็นต้น
สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นวันพรุ่งนี้คาดว่า ทิศทางตลาดหุ้นยังขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอก รวมถึงเงินทุนต่างชาติว่าจะเป็นอย่างไร หากยังไม่มีอะไรคืบหน้า ดัชนีตลาดจะเป็นลักษณะซึมๆ เหมือนกับวันนี้ เพื่อรอดูความชัดเจนต่อไป
สำหรับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่
1.THREL มูลค่าการซื้อขาย 3,478.54 ล้านบาท ปิดที่ 9.90 บาท +0.40 บาท หรือ +4.21%
2.TRUE มูลค่าการซื้อขาย 3,107.63 ล้านบาท ปิดที่ 8.85 บาท +0.55 บาท หรือ +6.63%
3.ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,571.17 ล้านบาท ปิดที่ 261 บาท -6 บาท -2.25%
4.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,356.94 ล้านบาท ปิดที่ 38.25 บาท +0.50 บาท +1.32%
5.JAS มูลค่าการซื้อขาย 1,158.07 ล้านบาท ปิดที่ 9.70 บาท +0.15 บาท +1.57%