“ม.ร.ว.ปรีดิยาธร” แนะผ่าทางตันภาคเกษตรไทย เน้นสร้างรายได้เสริมให้เกษตรกร แทนการใช้นโยบายรับจำนำข้าว ซึ่งไม่ช่วยกระจายรายได้ให้ชาวนา แต่กลับเป็นผลเสียมากกว่า เพราะกระทบฐานะการคลังของประเทศ สร้างผลขาดทุนถึง 205,000 ล้านบาทต่อปี
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีคลัง แสดงปาฐกถาในงาน จรรยาบรรณดีเด่นหอการค้าไทยปี 2556 โดยระบุว่า นโยบายรับจำนำข้าวของรัฐบาล ไม่ได้กระจายรายได้ให้แก่ประชาชน และเกษตรกร แต่กลับเป็นผลเสียมากกว่า เพราะกระทบฐานะการคลังของประเทศ สร้างผลขาดทุนถึง 205,000 ล้านบาทต่อปี หรือรวมเป็น 410,000 ล้านบาทใน 2 ฤดูกาล
ขณะที่เกษตกรกรมีรายได้เพียง 80,000 ล้านบาท ดังนั้น แนวทางที่จะสร้างการกระจายรายได้อย่างยั่งยืนต้องเพิ่มฐานรายได้สินค้าเกษตร ด้วยการพัฒนาผลิตภาพ ลดต้นทุนการผลิต และเพิ่มรายได้แหล่งที่ 2 นอกเหนือจากการเกษตร เช่น พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชน เพิ่มมูลค่าในสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ หรือ OTOP
แนวทางที่จะสร้างการกระจายรายได้อย่างยั่งยืนต้องเพิ่มฐานรายได้สินค้าเกษตรด้วยการพัฒนาผลิตภาพการผลิต ลดต้นทุนการผลิต และเพิ่มรายได้แหล่งที่ 2 นอกเหนือจากการเกษตร เช่น พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชน เพิ่มมูลค่าในสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ หรือโอทอป ซึ่งเศรษฐกิจฐานรากมีความมั่นคงมากกว่าการส่งออก ซึ่งขณะนี้หลายประเทศในเอเชีย เช่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน ลดพึ่งพาการส่งออก และเน้นพึ่งพาในประเทศ
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวว่า ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ควรเข้ามามีบทบาทในการสร้างแผนชุมชน วางแผนการผลิตที่ถูกทิศทางกับตลาด เพื่อสร้างรายได้ให้ชุมชน พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในชุมชน โดยให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นหน่วยงานประชาสัมพันธ์ และพัฒนาการศึกษาในระดับชุมชน และเพิ่มจำนวนบุคลากรครูที่มีคุณภาพ โดยหมุนเวียนบุคลากรครูลงพื้นที่ชุมชน และจัดซื้อตำราเรียนได้อย่างเสรี
ด้านนายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชัน กล่าวว่า เครือข่ายฯ ได้ให้ข้อมูลแก่รัฐบาลไปแล้วถึงจุดรั่วไหลในการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งหวังว่ารัฐบาลจะไปดำเนินการแก้ไขเพื่อไม่ให้เกิดการทุจริตที่สร้างผลเสียหายให้แก่ประเทศ ซึ่งหากเกิดการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวรอบ 2 จะทำให้ส่งผลเสียต่อการจัดสรรงบประมาณ เพราะงบประมาณจะหมดไปกับชดเชยการรับจำนำข้าว แทนที่จะนำไปพัฒนาประเทศเพื่อพัฒนาศักยภาพในการแข่งขันระยะยาว โดยในวันที่ 15 ตุลาคม 2556 เครือข่ายฯ จะมีการเปิดเผยข้อมูลทั้งปัญหาการขาดทุน การทุจริต การรั่วไหลในกระบวนการรับจำนำข้าวทั้งหมด จากผู้เชี่ยวชาญ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด