ทำเลสาทรระอุบิ๊กอสังหาฯ ลุยผุดคอนโดฯ

ทำเลสาทร ร้อนระอุ บิ๊กอสังหาฯ ลุยเปิดคอนโดฯ พฤกษา ส่ง “คอนโดเลต พิกเซล สาทร” ราคาเฉลี่ย 1 แสนบาท/ตร.ม.เริ่มต้น 2 ล้านบาท/ยูนิต ตามด้วย “โนเบิล รีโว สีลม” โครงการเก่าในชื่อใหม่หลังติดปัญหา EIA มากว่า 2 ปี เสนอขาย 1.23 แสนบาท/ตร.ม. เริ่มต้น 3.4 ล้านบาท/ยูนิต ฟุ้งปิดขายปีนี้ 60-70%

สาทรถือเป็นทำเลสำคัญเพราะเป็น 1 ใน 3 ของทำเลใจกลางย่านธุรกิจของกรุงเทพฯ ซึ่งได้แก่ สาทร เพลินจิต สุขุมวิท ที่ปัจจุบันเป็นทำเลทองของอาคารสำนักงานเกรดเอ เช่น อาคารสาทรสแควร์ เอ็มไพร์ทาวเวอร์ ฯลฯ โดยเฉพาะตามเส้นทาง BTS สถานีสุรศักดิ์ไปถึงสถานีศาลาแดง

นอกจากนี้ ยังเป็นที่ตั้งของโรงเรียนเอกชนชั้นนำ เช่น โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน เซนต์โยเซฟคอนแวนต์ อัสสัมชัญคอนแวนต์ และอัสสัมชัญบางรัก ซึ่งทำให้มีความต้องการคอนโดมิเนียมเพื่อรองรับลูกค้ากลุ่มนี้ที่ต้องการบ้านหลังที่ 2 ที่ใกล้โรงเรียนลูก

ทั้งนี้ จากการสำรวจของบริษัท ซีบี ริชาร์ด เอลลิส จำกัด พบว่า ช่วงต้นปี 2554-ไตรมาส 3 ปี 2556 ย่านสีสม-สาทร มีโครงการเปิดขายใหม่ทั้งสิ้น 14 โครงการ รวม 4,268 ยูนิต โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2556 เป็นปีที่มีการเปิดตัวมากที่สุด 8 โครงการ รวม 2,853 ยูนิต

นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจคอนโดมิเนียม บริษัทพฤกษา เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันราคาที่ดินในย่านสาทรปรับตัวขึ้นสูงมาก ที่มีการซื้อขายล่าสุดคือ แปลงที่เอไอเอซื้อในราคา 8 แสนบาท/ตร.ว. ขณะที่ฝั่งถนนพระราม 4 ราคา 7 แสนบาท/ตร.ว. ก่อนหน้านี้ บริษัทได้ซื้อที่ดิน โรงงานเก่าในย่านซอยศรีบำเพ็ญ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร มาในราคา 2 แสนกว่าบาท/ตร.ว. ซึ่งถือว่าถูกมาก เพราะราคาขายทั่วไปประมาณ 4 แสนบาท/ตร.ว.

โดยบริษัทเตรียมพัฒนาโครงการ “คอนโดเลต พิกเซล สาทร” สามารถเข้าได้ทั้ง สาทร ซ.1 และถนนพระราม 4 เป็นคอนโดมิเนียม สูง 8 ชั้น จำนวน 2 อาคาร และอาคารจอดรถ สูง 9 ชั้น จำนวน 1 อาคาร จำนวน 345 ยูนิต คิดเป็นมูลค่าโครงการที่ 900 ล้านบาท ราคาขายเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท หรือเฉลี่ยราคา 100,000 ต่อตารางเมตร โดยเปิดให้ลูกค้าจองในวันที่ 14 ต.ค.นี้ ที่ศูนย์การค้าสีลมคอมเพล็กซ์ ปัจจุบันมีลูกค้าสนใจเข้ามาลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัทแล้วประมาณ 2,000 ราย เชื่อว่าภายในปีนี้จะมียอดขายอยู่ที่ 70%

สำหรับผลการดำเนินงานกลุ่มธุรกิจคอนโดฯ ของพฤกษา รอบ 9 เดือน มียอดขายแล้ว 13,000 ล้านบาท คาดสิ้นปีจะมียอดขายอยู่ที่ 14,000-15,000 ล้านบาท เติบโต 35% จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ต้นปี 7,000-8,000 ล้านบาท ทำสถิตติสูงสุดในรอบ 20 ปีทั้งยอดขาย และกำไร โดยคอนโด เลต พิกเซล สาทรจะเป็นดครงการสุดท้ายของปีนี้ **เชื่อ EIA ผ่านฉลุยผุด “โนเบิล รีโว สีลม”

ด้านบริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เตรียมเปิดขายโครงการ Noble Revo Silom (โนเบิล รีโว สีลม) อยู่ใกล้ๆกับ BTS สถานีสุรศักดิ์ ห่างประมาณ 160 เมตร ซึ่งที่ดินแปลงโนเบิลเคยเปิดตัวโครงการไปแล้วในชื่อของ Noble Unite (โนเบิล ยูไนท์) จรูญเวียง-สุรศักดิ์ เมื่อเดือนกันยายน ปี 2554 แต่มีปัญหาเรื่องไม่ผ่านการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA

นายกิตติ ธนกิจอำนวย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การที่โครงการ โนเบิล ยูไนท์ ไม่ผ่าน EIA ในขณะนั้นเพราะพื้นที่สีเขียวไม่เพียงพอตามเกณฑ์ใหม่ จากเดิมที่คณะกรรมการจะอนโลมให้สามารถนำพื้นที่สีเขียวภายในอาคารมานับรวมได้ แต่เกณฑ์ใหม่ไม่นับ ดังนั้น บริษัทจึงได้ปรับรูปแบบอาคารให้มีขนาดเล็กลง เพื่อเพิ่มพื้นที่วางรอบอาคาร แต่เพิ่มความสูงอาคารจากเดิม 30 ชั้นเป็น 32 ชั้น ซึ่งเชื่อว่าโนเบิล รีโว สีลม จะผ่าน EIA อย่างแน่นอน สำหรับ โนเบิล รีโว สีลม พัฒนาเป็นอาคารที่พักความสูง 32 ชั้น จำนวน 319 ยูนิต บนพื้นที่กว่า 1-2-8 ไร่ มูลค่าโครงการกว่า 1,700 ล้านบาท มีห้องพักขนาด 31-55 ตารางเมตร สำหรับ 1 ห้องนอน และขนาด 65 ตารางเมตร สำหรับ 2 ห้องนอน ราคาเริ่มต้น เริ่มต้นที่ 3.4 ล้านบาทต่อยูนิต หรือ 1.23 แสนบาท/ตร.ม.

ทั้งนี้ บริษัทมีแผนเปิดจองรับสิทธิตั้งแต่วันที่ 18-31 ตุลาคม 56 และ ในวันที่ 3 พฤศจิกายน จะเปิดขาย (Pre-Sales) อย่างเป็นทางการ ณ โรงแรมดิโอกุระเพรสทีจ คาดว่าจะมียอดจองมากกว่า 60% ประมาณ 200 ยูนิต สำหรับผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายจาก 2 โครงการที่เปิดในปีนี้แล้ว 5,000-6,000 ล้านบาท และตั้งเป้ายอดขายจากโครงการ “โนเบิล รีโว สีลม” อีกประมาณ 1,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม บริษัทมั่นใจว่าภายในสิ้นปีนี้มียอดขายตามเป้า 7,500 ล้านบาท และมีรายได้ที่ 3,000-4,000 ล้านบาท

ในปัจจุบันมียอดขายที่รอรับรู้รายได้ประมาณ 13,000 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถทยอยการรับรู้รายได้ไปจนถึงปี 2560 อย่างไรก็ตาม ในปี 2557 บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการประมาณ 4 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 10,000 ล้านบาท โดยจะพัฒนาทั้งในโครงการแนวราบ และแนวสูง