“รถไฟฟ้ากรุงเทพ” คาดเพิ่มทุนแล้วเสร็จ มี.ค.ปีหน้า พบราคาตั๋ว 2 สายใหม่บริษัทไม่ได้เป็นผู้เคาะราคาทั้งหมด ผู้บริหารเชื่อพลิกกลับมามีกำไรในปี 59 แล้วเริ่มล้างขาดทุนต่อทันที คาดอีก 4-5 ปีจากนี้เคลียร์ได้ พร้อมส่งแผน 3 ตั้งกองทุนโครงการพื้นฐานระดมเงินต่อเมื่อสายสีม่วงเปิดดำเนินการ โบรกฯ มอง CK แปลงเงินกู้เป็นทุน เข้าถือหุ้น BMCL เพิ่มเป็น 30% ดันรับรู้ผลขาดทุนบริษัทลูกเพิ่ม
นายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BMCL ผู้ให้บริการรถไฟฟ้า MRT กล่าวว่า บริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจจากภาครัฐเข้ารับสัมปทานการเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วง บางใหญ่-ราษฎร์บูรณะ ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ สัญญาที่ 4 หรือสัญญาสัมปทานสำหรับการลงทุน การจัดหาระบบรถไฟฟ้า การให้บริการการเดินรถไฟฟ้า และซ่อมบำรุงรักษา โดยลงนามสัญญากับ รฟม. เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2556 ที่ผ่านมา ทำให้บริษัทฯ พร้อมบริหารจัดการการเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (สายเฉลิมรัชมงคล) และสายสีม่วง เส้นทางบางใหญ่-ราษฎร์บูรณะ ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ ซึ่งจะสามารถเปิดให้บริการในเร็วๆ นี้
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาจากมาตรฐานการให้บริการที่ดี และมีคุณภาพทำให้ระบบรถไฟฟ้า MRT ได้รับความไว้วางใจจากผู้โดยสารในการใช้บริการเพิ่มมากขึ้นแบบก้าวกระโดด โดยปัจจุบันมีปริมาณผู้โดยสารเฉลี่ยต่อวันประมาณ 300,000 เที่ยวโดยสาร ซึ่งส่งผลให้บริษัทฯ มีผลประกอบการที่ดีขึ้นตามลำดับ
“การเพิ่มทุนในครั้งนี้บริษัทฯ ได้รับการสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นหลัก คือ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) และกลุ่มเจ้าหนี้สถาบันการเงิน โดยการเพิ่มทุนในส่วนที่ 1 และส่วนที่ 2 มีกำหนดแล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2556 นี้ สำหรับส่วนที่ 3 กำหนดแล้วเสร็จภายในมีนาคม 2557”
อย่างไรก็ดี เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมเรื่องในดังกล่าว คณะกรรมการของบริษัทฯ จึงได้มีมติเพิ่มทุน จำนวน 8,550 ล้านบาท เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2556 โดยแบ่งเป็น 3 ส่วน ประกอบด้วย ส่วนที่ 1 เป็นการเสนอขายหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (Right Offering) จำนวน 2,000 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 1 บาท รวมเป็นจำนวนเงิน 2,000 ล้านบาท ที่อัตราส่วน 5.975 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ เพื่อใช้สำหรับยกระดับ และปรับปรุงประสิทธิภาพการให้บริการ การจัดซื้อระบบรถไฟฟ้า ตลอดจนดำเนินงาน และกิจกรรมต่างๆ ในธุรกิจ
ขณะที่ส่วนที่ 2 และส่วนที่ 3 เป็นการเสนอขายหุ้นให้บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) คือ บมจ.ช.การช่าง หรือ CK จำนวน 4,200 ล้านหุ้น และเจ้าหนี้สถาบันการเงิน ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย หรือ KTB ทหารไทย หรือ TMB กรุงศรีอยุธยา หรือ BAY และทุนธนชาต จำนวน 2,350 ล้านหุ้น ในสัดส่วนราคาหุ้นละ 1 บาท รวมจำนวน 6,550 ล้านบาท เพื่อชำระคืนหนี้เงินกู้ยืมและดอกเบี้ยค้างชำระ โดยบริษัทฯ มีกำหนดจัดการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2556 ในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2556 นี้
พบราคาตั๋ว 2 สายใหม่แยกกันกำหนด
นายวิสุทธิ บริบูรณ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานการตลาด บมจ.รถไฟฟ้ากรุงเทพ กล่าวว่า ขณะนี้รถไฟฟ้าเส้นสายสีน้ำเงินมีการก่อสร้างคืบหน้าเสร็จไปแล้วกว่า 72% ซึ่งตามสัญญาจะต้องสร้างเสร็จ และส่งมอบภายใน 1,250 วัน โดยคำนวณเฉลี่ยผู้โดยสารในรถไฟฟ้าสายสีม่วงจะมียอดผู้ใช้งานเฉลี่ย 1 แสนคน/วัน และสายสีน้ำเงินจะอยู่ที่ 2 แสนคน/วัน แต่อัตราค่าโดยสารจะเป็นไปใน 2 ระบบ คือ ในเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วง จะเป็นเส้นทางที่ BMCL กำหนดราคาเอง ส่วนในสายสีน้ำเงิน รัฐจะเป็นผู้กำหนดราคาการเดินทางในแต่ละช่วงสถานีออกมา ซึ่งหลังจากที่ก่อสร้างแล้วเสร็จจะมีการทดสอบระบบคำนวณราคาค่าโดยสารจากการเชื่อมต่อเปลี่ยนเส้นทางระหว่างสถานีต่อไป
คาดเพิ่มทุนแล้วเสร็จ มี.ค. 57
นายชัยวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การเพิ่มทุน 8,550 ล้านบาท จะแล้วเสร็จสมบูรณ์ภายในเดือน มี.ค.57 หลังจากคณะกรรมการอนุมัติแผนเพิ่มทนเมื่อวันที่ 3 ต.ค.56 โดยบริษัทฯ มีกำหนดจัดการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2556 ในวันที่ 11 พ.ย.56 และ หลังจากที่กระบวนการเพิ่มทุนและแปลงหนี้เป็นทุนเสร็จสิ้นแล้วจะส่งผลให้ D/E ลดลงมาต่ำกว่า 1.5 เท่า จากปัจจุบันอยู่ที่ 33 เท่า
อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารคาดว่า ผลประกอบการของ BMCL จะพลิกมามีกำไรได้ในปี 59 หลังจากรถไฟฟ้าสายสีม่วงจะเปิดเดินรถในช่วงกลางปี 59 ซึ่งเร็วกว่าที่กำหนดไว้ โดยจะทำให้รายได้ของบริษัทเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยประเมินว่า จำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเป็น 5 แสนเที่ยวโดยสาร/วัน จากปี 2557 คาดว่าจะเพิ่มเป็น 4 แสนเที่ยวโดยสาร/วัน จากการเพิ่มจำนวนขบวนรถ และหลังจากที่บริษัทมีกำไรแล้วจะเริ่มล้างขาดทุนสะสมทันที โดยคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 4-5 ปี จากนั้นยืนยันว่า จะมีการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นตามนโยบาย 40% ของกำไรสุทธิ
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนศึกษาการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเช่นกัน แต่ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนเพราะต้องรอให้สายสีม่วงเปิดดำเนินการก่อน เพื่อจะให้เห็นรายได้ที่เข้ามาอย่างชัดเจน
คาด CK แปลงเงินกู้เป็นทุน ดันรับรู้ผลขาดทุน BMCL เพิ่ม
บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ประเมินแผนธุรกิจของ BMCL ว่า การเพิ่มทุนของ BMCL คราวนี้จะทำให้ CK แปลงเงินกู้เป็นทุน และจองหุ้นเพิ่มทุนด้วย ดังนั้น CK จึงถือ BMCL มากขึ้นเป็น 38% จากเดิม 16% ผลขาดทุนของ BMCL ทำให้ส่วนได้เสียจากบริษัทร่วมของ CK ลดลง กระทบต่อประมาณการกำไรปี 57 ลดลง 14% แต่กระทบต่อ Valuation โดยรวม ไม่มาก คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐานที่ 25.80 บาท
“การเพิ่มทุนของ BMCL ไม่ได้สร้างภาระการเงินเพิ่ม เพียงแต่ถือหุ้น BMCL มากขึ้น CK ต้องรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนจาก BMCL มากขึ้น แต่แนวโน้มในระยะยาวของ BMCL จะดีขึ้นจากจำนวนผู้โดยสารดีขึ้น และการแปลงหนี้เป็นทุนในคราวนี้”