หน้าผาการคลัง “สหรัฐฯ” ปิดหน่วยงานรัฐ ขยายเพดานหนี้แตะจุดสูงสุด ทำตลาดหุ้น ต.ค.ระทึกทั้งเดือน

โบรกฯ ประเมินผลกระทบ “วิกฤตการคลัง” ในสหรัฐฯ ยังไม่ส่งผลถึง ศก.ไทย เชื่อประเด็นงบรายจ่ายปี 57 ท้ายสุดแล้วจะตกลงกันได้ หากปิดหน่วยงานรัฐต่อไปอีก 2-3 วัน ฉุดจีดีพีสหรัฐฯ Q4 ลดแค่ 0.1% ส่วนการขยายเพดานหนี้ แตะระดับสูงสุดที่ 16.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ทันกลางเดือน ต.ค.นี้ หรือไม่ อาจทำให้หุ้นระทึก และผันผวนตลอดทั้งเดือน

นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ประเมินผลกระทบเรื่องงบประมาณรายจ่ายปี 2557 ของสหรัฐฯ น่าจะไม่กระทบต่อเศรษฐกิจของไทยมากนัก ทั้งนี้ หากหน่วยงานรัฐยังคงปิดทำการต่อไปใน 2-3 วัน คาดว่าจะทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (จีดีพี) ไตรมาส 4 ของสหรัฐฯ ลดลงเพียง 0.1%

พร้อมกันนี้ ยังแนะนำนักลงทุนยังคงต้องจับตาประเด็นผลกระทบต่อเรื่องการขยายเพดานหนี้กลางเดือนนี้ ทั้งนี้ ยังต้องระวังความผันผวนที่จะมีมากขึ้นตลอดเดือน หลังยังมีประเด็นเพดานหนี้สหรัฐฯ ที่ยังต้องจับตาอย่างใกล้ชิด และน่าจะมีการเก็งกำไรจากมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน (คิวอี) กันอีกครั้ง ก่อนประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สิ้นเดือนตุลาคม 2556 นี้

ด้านนักวิเคราะห์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด มองปัจจัยกระทบจากต่างประเทศ โดยระบุว่า ตลาดฯ กำลังรอดูว่าสภาคองเกรส ของสหรัฐฯ น่าจะตกลงกันเรื่องงบประมาณรายจ่ายฯ ได้ในเร็วๆ นี้ รวมทั้งอนุมัติให้มีการขยายเพดานการก่อหนี้ ก่อนที่หนี้สินรัฐบาลจะขึ้นไปแตะเพดานสูงสุดที่ 16.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ทันกลางเดือน ต.ค.นี้ หรือไม่

ทั้งนี้ กระแสคาดการณ์ล่าสุดยังค่อนไปทางบวกว่าในที่สุดจะประนีประนอมกันได้ สำหรับตัวเลขภาคการผลิตสหรัฐฯ ที่เติบโตชะลอตัวลง เป็นอีกจุดหนึ่งที่ทำให้ประเมินว่า เฟดอาจจะยังไม่ชะลอโครงการซื้อพันธบัตรในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (เอฟโอเอ็มซี) ในวันที่ 29-30 ต.ค.นี้

ส่วนปัจจัยในประเทศมีประเด็นเรื่องการทูลเกล้าฯ ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ (รธน.) ประเด็นที่มาของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ของรัฐบาล เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยของรัฐบาล ซึ่งบางฝ่ายมองว่าน่าจะรอให้ศาลรัฐธรรมนูญประกาศคำวินิจฉัยเสียก่อน ว่า ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ นอกจากนั้น ยังจับตาการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทว่าจะเป็นอย่างไร