หุ้นแกว่งผันผวนในกรอบแคบ ดัชนีปิดครึ่งวันเช้าบวก 1.02 จุด “บล.ฟินันเซียฯ” ระบุปัญหาการคลังในสหรัฐฯ กดดันการลงทุนในตลาดหุ้น นักลงทุนมีความกังวลเพิ่มขึ้นหากขยายเพดานหนี้ล่าช้า นำไปสู่สุญญากาศการใช้จ่ายภาครัฐ “บล.ดีบีเอสฯ” ชี้ตลาดยังถูกกดดันจากแรงขาย “ต่างชาติ” พร้อมระบุ 4 ปัจจัยลบจ่อคิวเข้ากระทบตลาดฯ
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (26 ก.ย.) ดัชนีปิดครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,437.92 จุด เพิ่มขึ้น 1.02 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.07% มูลค่าการซื้อขาย 19,616.69 ล้านบาท โดยบรรยากาศการลงทุนในภาคเช้าด่อนข้างผันผวน ดัชนีแกว่งตัวทั้งในแดนบวกและแดนลบ แตะจุดสุงสุดที่ระดับ 1,440.53 จุด และต่ำสุดที่ 1,424.39 จุด
นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ยอมรับว่า นักลงทุนเริ่มกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับปัญหาด้านการคลังของสหรัฐฯ ที่อาจนำไปสู่การปิดหน่วยงานภาครัฐในช่วงถัดไปได้ หลังสหรัฐฯ ยังไม่ได้ข้อยุติเกี่ยวกับการขยายเพดานหนี้ก่อนเส้นตาย 30 ก.ย.นี้ ซึ่งจะนำไปสู่สุญญากาศของการใช้จ่ายของรัฐบาล และมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจต่อไป
ขณะที่เช้านี้ตลาดหุ้นต่างประเทศยังได้รับแรงกดดันจากความผิดหวังต่อตัวเลขยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐฯ ทำให้บรรยากาศการลงทุนไม่สดใสนัก ส่งผลให้ภาพรวมดัชนีตลาดหุ้นไทยยังคงแกว่งตัวผันผวน และปรับตัวในกรอบที่จำกัด
ทั้งนี้ แนะนำให้รอจังหวะซื้อใหม่เมื่อตลาดมีการปรับพักตัวลงในด้านลบเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ต้องจับตาดูตัวเลขส่งออกเดือนสิงหาคม 2556 ของไทยในวันนี้ ที่จะประกาศโดยกระทรวงพาณิชย์ ด้วยเช่นกัน
ด้านนักวิเคราะห์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด มองว่า ตลาดหุ้นไทยยังมีแรงกดดันจากการขายของนักลงทุนต่างชาติที่ยังสูง รวมทั้งมีความกังวลหลายเรื่อง เช่น 1.ผลกระทบจากน้ำท่วมที่ทำให้เศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวได้ช้าลง แม้ว่าจะเป็นบวกกับบางอุตสาหกรรม คือ วัสดุก่อสร้าง และร้านค้าวัสดุก่อสร้าง เนื่องจากต้องมีการซ่อมแซมบ้านเรือน และอาคารสถานที่ต่างๆ ที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม
2.การเมืองไทยที่ไม่แน่นอน โดยศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องเกี่ยวกับการแก้ไขกฎหมายเรื่องที่มาของ ส.ว. และร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2557 ไปแล้ว 3.ความยากลำบากของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการขอขยายเพดานการก่อหนี้ และของบประมาณรายจ่ายปี 2557 จากสภาคองเกรส และสุดท้าย 4.ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่บ่งชี้ถึงการเติบโตในอัตราที่ชะลอตัวลง