ธ.กรุงไทย ห่วงข้าราชการผ่อนเงินกู้ซื้อบ้านไม่ไหว หลังโดนมรสุมค่าครองชีพพุ่ง ปรับกลยุทธ์ใหม่หวังปิดความเสี่ยงหนี้เสีย พร้อมติดตามลูกค้าใกล้ชิดมากขึ้น เตรียมยืดเวลาชำระหนี้ และลดวงเงินผ่อนให้น้อยลง
นายเวทย์ นุชเจริญ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB เปิดเผยว่า ความกังวลเรื่องเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นในขณะนี้ยังไม่กระทบต่อสินเชื่อบุคคลมากนัก แต่ที่ห่วงคือ สินเชื่อบ้าน โดยเฉพาะจากกลุ่มข้าราชการบางกลุ่ม ซึ่งมีผลกระทบจากค่าครองชีพมากกว่าอาชีพอื่น เนื่องจากมีระดับหนี้ต่อรายได้สูง แต่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ของสินเชื่อรายย่อยยังทรงตัวระดับต่ำ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะธนาคารเข้าไปยืดเวลาการผ่อนชำระ และลดวงเงินการผ่อนลงสำหรับสินเชื่อบ้าน ทำให้กลุ่มที่กำลังจะมีปัญหาสามารถประคองตัวต่อไปได้
สำหรับกลยุทธ์ในการทำธุรกิจรายย่อย และเอสเอ็มอีของธนาคารในภาวะที่เศรษฐกิจมีความเสี่ยงมากขึ้น คือ การติดตามลูกค้าเก่ามากขึ้น เพิ่มความเข้มงวดในการกลั่นกรองลูกค้าที่เข้ามาใหม่มากขึ้น และหันไปมุ่งเน้นลูกค้าที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น กลุ่มแพทย์ ทนาย รวมถึงกลุ่มเอสเอ็มอีที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 20 ล้านบาท โดยจะเข้าไปใช้ข้อมูลจากเครดิตบูโรถี่ขึ้น เพื่อทบทวนสถานะของลูกหนี้ และประวัติการชำระหนี้ และดูกระแสเงินสดของลูกค้าอย่างละเอียดมากขึ้น
ขณะเดียวกัน จะพิจารณาเข้มงวดมากขึ้นสำหรับบ้านหลังที่ 2-3 และพิจารณาเรื่องกระแสเงินสดหมุนเวียน หรือเงินที่คงเหลืออยู่ในบัญชีเงินฝากแต่ละเดือน โดยธนาคารได้ปรับอัตราส่วนรายได้ต่อการชำระหนี้ลูกหนี้ต้องมีรายได้มากกว่าหนี้ 1.5 เท่า จากเดิมที่ธนาคารเคยให้ต่ำกว่านี้ เนื่องจากค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นในขณะนี้ทำให้ภาระของครอบครัวสูงขึ้น ขณะที่ยอดปฏิเสธสินเชื่อของธนาคารยังอยู่ที่ 30%
ทั้งนี้ ช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาธนาคารปล่อยสินเชื่อบ้านเติบโต 10% ทั้งปีเชื่อว่าจะโตได้ตามเป้าหมาย 20% เนื่องจากในช่วงปลายปีจะเป็นช่วงที่สินเชื่อโตได้มากกว่าครึ่งปีแรก