xs
xsm
sm
md
lg

ทองคำร่วง 500 บาท ยังผันผวน ด้านหุ้นทิ้งดิ่งช่วงเย็นลด 13 จุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หุ้น&ทองคำ กอดคอร่วง 13 จุด และ 500 บาท “จิตติ” ชี้ความกังวลต่อผลประชุมเฟดกดดันราคาทองคำช่วงนี้ผันผวนจัด แนะนักลงทุนติดตาม รวมถึงสถานการณ์ในซีเรีย ด้านหุ้นไม่น้อยหน้าดิ่งลงช่วงท้ายการซื้อ โบรกฯ คาดพักฐานหลังขึ้นมาแรง และไร้ปัจจัยใหม่หนุน แต่ไม่ตัดประเด็น 4 โมงเย็นทิ้ง พร้อมเชื่อวันนี้อาจพักฐานต่อ ล่าสุด สรรพากรส่งหนังสือถึง ก.ล.ต. บล. บลจ. ขอข้อมูลโอนหุ้นนอกตลาดหลักทรัพย์ฯ ไล่บี้เก็บภาษี

รายงานแจ้งว้า วันนี้ (12 ก.ย.) สมาคมค้าทองคำประกาศราคาทองคำล่าสุดตลอดทั้งวัน มีการปรับขึ้น-ลง รวม 9 ครั้ง เบ็ดเสร็จลดลงไป500 บาท  โดยทองคำแท่งรับซื้อ 20,100 บาท ขาย 20,200 บาท ทองรูปพรรณรับซื้อ 19,814 บาท และขาย 20,600 บาท

นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาทองคำในประเทศ ว่า ปรับลดลงแล้วกว่า 400 บาท ซึ่งราคาทองที่ผันผวนส่วนหนึ่งเกิดจากความกังวลของนักลงทุนในการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันที่ 17-18 กันยายนนี้ โดยคาดว่าจะเกี่ยวข้องกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ว่าจะมีความชัดเจนในการชะลออย่างไร หรือยุติลงเมื่อใด

ขณะเดียวกัน ปัจจัยจากสงครามระหว่างสหรัฐฯ กับซีเรีย ยังต้องติดตามการเจรจาระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ และรัสเซีย กรณีให้ซีเรียส่งมอบอาวุธเคมี ทำให้คาดว่าราคาทองคำในช่วงนี้จะยังผันผวนอย่างต่อเนื่อง

ด้านตลาดหลักทรัพย์ฯ วันนี้ (12 ก.ย.) ดัชนีเคลื่อนไหวอย่างผันผวนเช่นกัน โดยปรับตัวในแดนบวกก่อนกลับปิดตลาดที่ระดับ 1,397.90 จุด ลดลง 13.28 จุด หรือ -0.94% มูลค่าการซื้อขาย 42,874.58 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ ประเมินว่า ตลาดหุ้นไทยผันผวนในกรอบแคบคล้ายตลาดภูมิภาค ซึ่งได้แรงกดันจากการขายทำกำไร หลังจากปรับตัวขึ้นไปมาก ขณะที่ยังไร้ปัจจัยใหม่เข้าเสริม และนักลงทุนยังรอผลการประชุมเฟด 17-18 ก.ย.ประเด็นลดขนาด QE  อย่างไรก็ตาม จากการปรับตัวลดลงในช่วงบ่ายนักวิเคราะห์ยังไม่ตัดประเด็นการปั่นหุ้นของกลุ่มที่แก๊ง 4 โมงเย็นออกไปด้วยเช่นกัน

ทำให้แนวโน้มในวันพรุ่งนี้ (13 ก.ย.) ตลาดฯ คงจะซึมตัวต่อ เนื่องจากรอบนี้ตลาดฯ พยายามจะขึ้นไปทดสอบระดับ 1,420 จุด แต่ยังไม่ผ่าน ทำให้อาจจะพักตัว พร้อมให้แนวรับ 1,400-1,390 จุด ส่วนแนวต้าน 1,420 จุด

นอกจากนี้ มีรายงานข่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ส่งหนังสือถึงบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ธนาคารพาณิชย์ที่ทำหน้าที่รับฝากทรัพย์สินของลูกค้า และบริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา เพื่อขอความร่วมมือเกี่ยวกับการจัดส่งข้อมูลการโอนหุ้นของบริษัทจดทะเบียนนอกตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยให้แก่กรมสรรพากร

โดย ก.ล.ต.ระบุว่า กรมสรรพากร ได้มีหนังสือขอความร่วมมือจากในการขอข้อมูลจากบริษัทหลักทรัพย์ให้จัดส่งข้อมูลของลูกค้าที่มีการโอนหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนนอกตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้แก่ หุ้น ใบสำคัญแสดงสิทธิ (warrant) ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (derivative warrant) ใบแสดงสิทธิในผลประโยชน์ที่เกิดจากหลักทรัพย์อ้างอิงไทย (NVDR) ใบแสดงสิทธิในผลประโยชน์ที่เกิดจากหลักทรัพย์อ้างอิง (DR) ให้แก่กรมสรรพากร เพื่อประโยชน์ในการเก็บภาษีตามรูปแบบที่กรมสรรพากรกำหนด เนื่องจากเป็นธุรกรรมที่ผู้โอน หรือผู้รับโอนมีภาระหน้าที่ต้องเสียภาษีแล้วแต่กรณี

ทั้งนี้ การโอนหุ้นของบริษัทจดทะเบียนนอกตลาดหลักทรัพย์ฯ จะต้องมีการพิจารณาแล้วแต่กรณีไปว่าต้องเสียภาษีหรือไม่ ซึ่งปัจจุบันทาง ก.ล.ต.ก็ได้ยื่นหนังสือสอบถามข้อสงสัยไปยังกรมสรรพากร เพื่อให้ชี้แจงความชัดเจนเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการเสียภาษีโอนหุ้นนอกตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าจะมีการจัดเก็บในรูปแบบใด และจะจัดเก็บในกรณีใดบ้าง ซึ่งถ้าหากได้รับคำตอบ ก.ล.ต.ก็จะทำความเข้าใจแก่ผู้ลงทุนต่อไป

ขณะเดียวกัน หนังสือของ ก.ล.ต.ยังระบุขั้นตอนการรายงานข้อมูลว่า บริษัทที่ลูกค้าขอทำธุรกรรมโอนหลักทรัพย์เป็นผู้มีหน้าที่ต้องรายการให้กรมสรรพากรทราบทุกรายการ โดยให้จัดส่งรายงานให้กรมสรรพากรเป็นรายเดือนภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป หากไม่มีลูกค้าทำธุรกรรมก็ให้แจ้งให้กรมสรรพากรรับทราบด้วย

ส่วนกรณีของ บลจ. ขอให้บริษัทให้ความร่วมมือกับ บล.ในการรายงานธุรกรรมโอนหลักทรัพย์กรณีการทำธุรกรรมซื้อขายหลักทรัพย์ระหว่างกองทุน (cross trade) ภายใต้การจัดการของกองทุนรวม และกองทุนส่วนบุคคล นอกจากนี้ ในกรณีที่กองทุนส่วนบุคคล ซึ่งผู้ลงทุนอาจะมีภาระภาษีเกิดขึ้นจากการทำธุรกรรม cross trade ก็ให้ชี้แจงทำความเข้าใจแก่ลูกค้าด้วยเช่นกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น