xs
xsm
sm
md
lg

FPI ปรับกลยุทธ์เน้นการลงทุน พัฒนาสินค้าใหม่ ขยายตลาดรองรับการผลิตเพิ่ม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ฟอร์จูนพาร์ท อินดัสตรี้” เปิดกลยุทธ์ครึ่งปีหลัง มุ่งเน้นการลงทุนหลัก 3 ส่วน ทั้งสำนักงานใหม่ และห้องแสดงสินค้า มูลค่า 40 ล้านบาท และแม่พิมพ์โมเดลใหม่เพิ่ม 100 ล้านบาท รับการขยายตัวตลาดทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งก่อสร้างคลังเก็บสินค้าเนื้อที่ 24,000 ตารางเมตร บวกกับของเดิมที่มีอยู่แล้ว ทำให้มีพื้นที่เก็บสินค้าเพิ่มขึ้นเป็น 72,000 ตารางเมตร “สมพล ธนาดำรงศักดิ์” ประกาศเดินหน้าลุยธุรกิจอย่างเต็มที่ แถมส้มหล่นรับอานิสงส์บาทอ่อน คาดดันยอดขายภายใน 3 ปี โตไม่ต่ำกว่า 20% ต่อปี

นายสมพล ธนาดำรงศักดิ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์จูนพาร์ท อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ FPI เปิดเผยถึงกลยุทธ์ช่วงครึ่งหลังของปีนี้จะมุ่งเน้นการลงทุนใน 3 ส่วนหลัก ได้แก่ การลงทุนในสำนักงานใหม่ และห้องแสดงสินค้าตัวอย่าง มูลค่า 40 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายตัวของตลาดทั้งใน และต่างประเทศ และการลงทุนแม่พิมพ์โมเดลใหม่เพิ่มอีก 100 ล้านบาท จากครึ่งปีแรกที่ลงทุนไปแล้ว 50 ล้านบาท รวมเป็น 150 ล้านบาท โดยเน้นในส่วนของสินค้ากันชน และอุปกรณ์ตกแต่งชุดสเกิร์ตรอบคัน คาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 300 ล้านบาท ในช่วงระยะเวลา 2 ปีข้างหน้า และรายได้ขั้นต้นผลิตภัณฑ์กลุ่มดังกล่าวสูงขึ้น รวมถึงการก่อสร้างอาคารคลังเก็บสินค้า เนื้อที่ใช้สอย 24,000 ตารางเมตร เพิ่มจากเดิม 48,000 ตารางเมตร เริ่มก่อสร้างประมาณเดือนกันยายนนี้ แล้วเสร็จช่วงไตรมาส 1 ปีหน้า เพื่อรองรับกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น และการเติบโตต่อเนื่องในปีต่อๆ ไป

“ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป บริษัทฯ ได้ปรับแม่พิมพ์ชิ้นส่วนรถยนต์จากค่ายเกาหลีเพิ่มมากขึ้น มูลค่า 40 ล้านบาท จากงบลงทุนที่ตั้งไว้ 150 ล้านบาท โดยจะสร้างยอดขายได้เพิ่มขึ้นกว่า 100 ล้านบาทต่อปี เนื่องจากเกาหลีเป็นประเทศที่ผลิตรถยนต์เป็นอันดับ 5 ของโลก มียอดผลิตประมาณ 5 ล้านคันในปีที่แล้ว โดยตลาดส่งออกที่สำคัญของ FPI จะอยู่ที่โซนตะวันออกกลาง แอฟริกา และละตินอเมริกา ซึ่งมีสัดส่วนถึงร้อยละ 82 โดยบริษัทฯ จะเน้นลงทุนในรุ่นต่างๆ ของ Hyundai Daewoo และ KIA ซึ่งไตรมาส 2 ได้ลงทุนแม่พิมพ์รถยนต์จากค่ายอเมริกัน ที่ใช้ในตลาดตะวันออกกลางไปแล้ว 5 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้รับผลดีจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ช่วงนี้ค่าเงินบาทได้อ่อนค่าลงพอสมควร ทำให้ผู้ส่งออกได้ประโยชน์ค่อนข้างมาก ซึ่งจะทำให้สามารถรับรู้รายได้ในรูปเงินบาทมากขึ้น”

นายสมพล กล่าวต่อว่า นอกเหนือการลงทุนในส่วนต่างๆ แล้ว บริษัทฯ ยังมุ่งเน้นการพัฒนาสินค้าและโมเดลใหม่ๆ เพื่อรองรับกำลังผลิตที่เพิ่มขึ้น โดยจะมีการลงทุนในแม่พิมพ์เพิ่มขึ้นอีก 100 ล้านบาท จากที่ลงทุนไปแล้ว 50 ล้านบาทในช่วงครึ่งปีแรก แบ่งเป็นแม่พิมพ์เกาหลีประมาณ 40 ล้านบาท แม่พิมพ์ญี่ปุ่น 40 ล้านบาท และแม่พิมพ์สำหรับอุปกรณ์ตกแต่งอีก 20 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะทำให้ยอดขาย และกำไรในปีนี้เติบโตขึ้นไม่ต่ำกว่าร้อยละ 20

โดยบริษัทฯ มีจุดเด่นที่กระบวนการผลิตด้านพลาสติกที่ครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบแม่พิมพ์ ขึ้นรูปแม่พิมพ์ กระบวนการฉีดพลาสติก ชุบพลาสติก พ่นสี 2 K และการประกอบ ซึ่งปัจจุบันในประเทศไทยยังมีบริษัทที่มีกระบวนการผลิตครบค่อนข้างน้อย รวมถึงกระบวนการชุบ LINE AUTOMATIC 2 LINE จากเยอรมนี และญี่ปุ่น ซึ่งการชุบ NICKLE ได้ถึง 4 ชั้น และความหนาถึง 48 MICRON ทำให้บริษัทฯ สามารถผลิตสินค้าที่มีคุณภาพเทียบเท่าบริษัทผู้ผลิต (OEM) และราคาที่แข่งขันได้

“รายได้หลักของ FPI จะเน้นส่งออกตลาดต่างประเทศ ซึ่งช่วง 6 เดือนแรกปีนี้มีสัดส่วนถึงร้อยละ 87.70 และในประเทศอีกร้อยละ 12.30 โดยชิ้นส่วนยานยนต์มียอดขายครึ่งปีแรก 839.58 ล้านบาท เป็นผลจากการลงทุนในแม่พิมพ์ใหม่ๆ โดยเฉพาะตลาด AEC และรถยนต์จากค่ายเกาหลีเพิ่มขึ้น ทำให้เจาะตลาดใหม่ๆ ได้มากขึ้น และขยายสายการผลิตภัณฑ์ให้แก่ลูกค้ากลุ่มเดิมที่มีอยู่แล้ว” นายสมพลกล่าว

สำหรับผลดำเนินงานไตรมาส 2/2556 บริษัทฯ มีรายได้รวม 442.60 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 47.04 ล้านบาท งวด 6 เดือนมีรายได้รวม 839.55 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 88.13 ล้านบาท


กำลังโหลดความคิดเห็น