xs
xsm
sm
md
lg

“ก.ล.ต.” หารือ “ตลท.” ถกสถานการณ์หุ้น 30 ส.ค.นี้ ผลตรวจ “โบรกฯ” ยังแข็งแรง “ฟอสเซล” มีไม่มาก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วรพล โสคติยานุรักษ์
เลขาธิการ “ก.ล.ต.” นัดผู้บริหาร “ตลท.” ถกสถานการณ์ตลาดหุ้น 30 ส.ค.นี้ เผยผลการตรวจสุขภาพ บล. ทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงถือว่าอยู่ในระดับที่ดี ส่วนการชำระ และส่งมอบหลักทรัพย์ก็อยู่ในภาวะปกติ ไม่น่ากังวล ด้านการบังคับขายหุ้นก็ถือว่ามีบ้าง แต่ไม่มาก ปลอบนักลงทุนอย่าตื่นตระหนก พร้อมหนุน บลจ.ไทย จัดตั้ง “ไทยแลนด์ฟันด์” ดึงนักลงทุนญี่ปุ่นเข้าลงทุน

นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า วันที่ 30 ส.ค.นี้ ก.ล.ต. จะมีการประชุมหารือกับตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อประเมินสถานการณ์ตลาดหุ้นไทยถึงสาเหตุของการปรับตัวลดลงว่าเกิดจากปัจจัยอะไร ซึ่งหากประเมินสถานการณ์แล้วพบว่า เป็นปัจจัยปกติก็จะไม่มีการดำเนินการแต่อย่างใด แต่ก็จะมีการติดตาม และเฝ้าดูเป็นระยะ ซึ่งการประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมประจำเดือนระหว่าง ก.ล.ต. และทาง ตลท. อยู่แล้ว

โดยในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ก.ล..ต ได้มีการประชุมประจำไตรมาสกับทางสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย และสมาคมบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ซึ่งเป็นการประชุมเพื่อรับทราบข้อมูลจาก 2 หน่วยงาน และที่ผ่านมา ก.ล.ต. ได้มีการตรวจสถานะของ บล. ซึ่งพบว่าทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (NCR) ถือว่าอยู่ในระดับที่ดี และตรวจสอบเรื่องการชำระ และส่งมอบหลักทรัพย์ก็อยู่ในภาวะปกติไม่น่ากังวล ส่วนเรื่องการบังคับขายหุ้นก็ถือว่ามีบ้าง แต่ไม่มาก

สำหรับเม็ดเงินนักลงทุนต่างชาติซึ่งมีการขายหุ้นไทยออกไปนั้น ส่วนตัวมองว่าเป็นเม็ดเงินลงทุนระยะสั้นที่เข้ามาในช่วงที่สหรัฐฯ มีการทำ QE ในช่วงปี 2554 ซึ่งขณะนี้จากความผันผวนระยะสั้นทำให้มีการขายหุ้นไทยออกไป ซึ่งถือว่าเป็นเม็ดเงินที่ไม่มาก และไม่น่ากังวล เพราะกองทุนต่างประเทศขนาดใหญ่ที่เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยก็ยังไม่มีการขายออกมา

ทั้งนี้ จากกรณีที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงมาอย่างต่อเนื่องขณะนี้ อยากให้นักลงทุนมีความระมัดระวัง รอบคอบ อย่าตื่นตกใจ เนื่องจากเศรษฐกิจไทยก็ยังมีการเติบโตกว่าหลายประเทศในภูมิภาคนี้ บจ. มีกำไรเติบโตที่ดีกว่าปีก่อน ผลตอบแทนก็อยู่ในระดับที่สูง ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าไปลงทุนในบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดี และจากการที่สหรัฐฯ จะมีการทยอยยกเลิกการใช้มาตรการ QE ถ้าประเมินระยะยาวถือว่าเป็นปัจจัยบวกต่อประเทศไทย เนื่องจากเป็นตัวบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจโลกจะมีการฟื้นตัวที่ดี และทำให้ประเทศไทยมีการส่งออกดีขึ้น ส่วนซีเรีย ก็อาจจะส่งผลกระทบในด้านจิตวิทยาบ้าง แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ค่อยมีผลต่อประเทศไทยโดยตรงมากนัก

อย่างไรก็ตาม ก.ล.ต. ไทย ได้มีการประสานความร่วมมือกับ ก.ล.ต.ญี่ปุ่น เพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทย กับบลจ.ญี่ปุ่น ซึ่งจะมีการผลักดันให้ บลจ.ไทยไปตั้งกองทุนไทยแลนด์ฟันด์ที่ญี่ปุ่นเพื่อดึงกองทุนและนักลงทุนญี่ปุ่นให้เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทย

ขณะนี้พบว่ามี บลจ.ไทยสนใจที่จะตั้งกองทุนไทยแลนด์ฟันด์ จำนวน 2-3 รายแล้ว โดยสาเหตุที่ ก.ล.ต.ไทยมีการสนับสนุนให้ตั้งกองทุนดังกล่าว เนื่องจากมองว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังฟื้นตัว และกำลังจะมีการหาแหล่งลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ดี ซึ่งประเทศไทยถือว่ามีความน่าสนใจจากเศรษฐกิจที่มีการเติบโตที่ดี
กำลังโหลดความคิดเห็น