ตลาดหลักทรัพย์ฯ เผยโรดโชว์ญี่ปุ่น เร่งขยายฐานผู้ลงทุนสถาบัน และรายย่อย เผยกองทุนต่างชาติ 32 ราย สนฟังข้อมูล บจ. ถือเป็นการให้ข้อมูลโดยตรง แถมยังเป็นช่วงเวลาที่ดี เนื่องจากการนำเสนอข้อมูลโดยตรงนั้นจะช่วยสร้างความเชื่อมั่น และกระตุ้นให้ผู้ลงทุนสนใจเข้าลงทุนในไทยมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในช่วงสภาวะตลาดโลกผันผวน
นายภากร ปีตธวัชชัย รองผู้จัดการ สายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กรและการเงิน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) จัดงาน “The SET & Nomura Japan Roadshow” ณ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 4-5 กรกฎาคม 2556 ที่ผ่านมา โดยนำบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ของไทย 10 บริษัทจาก 4 กลุ่มอุตสาหกรรม เข้าร่วมให้ข้อมูลแก่ผู้จัดการกองทุนจำนวนกว่า 32 คน จาก 17 กองทุน ซึ่งตลอดการจัดงานทั้ง 2 วัน มีการนำเสนอข้อมูล และการประชุมกลุ่มย่อยกว่า 73 ครั้ง
นายภากร กล่าวว่า การไปโรดโชว์ครั้งนี้ได้มีโอกาสพบกับผู้บริหารกองทุนชั้นนำของญี่ปุ่นที่เข้าร่วมงานเพื่อรับฟังข้อมูลเกี่ยวกับภาพรวมเศรษฐกิจไทย และภาวะการลงทุนของประเทศไทย รวมถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่เกี่ยวกับ Infrastructure Fund และ Holding company ส่วนบริษัทจดทะเบียนได้มีโอกาสให้ข้อมูลโดยตรงแก่ผู้ลงทุนสถาบันในรูปแบบของการประชุม 1-on-1
ขณะเดียวกัน ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้นำเสนอข้อมูลแก่พนักงานการตลาดของผู้ลงทุนรายย่อยของโนมูระ จำนวนกว่า 100 ราย เพื่อส่งเสริมการขยายฐานผู้ลงทุนรายย่อยญี่ปุ่นที่มีศักยภาพ และสนใจการลงทุนในไทย ทั้งยังได้รับฟังความคิดเห็น และมุมมองของผู้ลงทุนญี่ปุ่นเกี่ยวกับการลงทุนในตลาดทุนไทย รวมทั้งปัญหาและอุปสรรคในการลงทุน เพื่อจะได้นำไปดำเนินการขยายผลและส่งเสริมให้ผู้ลงทุนญี่ปุ่นลงทุนในตลาดทุนไทยมากยิ่งขึ้น
นายชินอิจิ มิซูโน กรรมการอำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า การจัดงานครั้งนี้ นอกจากจะเป็นโอกาสอันดีที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ และบริษัทจดทะเบียนไทยร่วมให้ข้อมูลโดยตรงแก่ผู้ลงทุนญี่ปุ่น ยังเป็นช่วงเวลาที่ดี เนื่องจากการนำเสนอข้อมูลโดยตรงนั้นจะช่วยสร้างความเชื่อมั่น และกระตุ้นให้ผู้ลงทุนญี่ปุ่นมีการลงทุนในไทยมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในช่วงสภาวะตลาดโลกผันผวน
สำหรับบริษัทที่ร่วมให้ข้อมูลในครั้งนี้รวม 10 บริษัท ได้แก่ บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV) บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชัน (AMATA) บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) บมจ.ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (ERW) บมจ.โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HMPRO) บมจ.น้ำตาลขอนแก่น (KSL) บมจ.ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น (TICON) บมจ.ไทยออยล์ (TOP) บมจ.น้ำประปาไทย (TTW) ซึ่งมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (market capitalization) รวมกัน 384,718.35 ล้านบาท (ข้อมูล ณ 8 ก.ค.2556)