“เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์คฯ” เผยภาพรวมตลาดสินเชื่อปีนี้โตต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อบริษัทฯ ให้มีโอกาสซื้อหนี้เข้ามาบริหารเพิ่มได้ในทิศทางเดียวกัน ด้านแม่ทัพใหญ่ “ปิยะ พงษ์อัชฌา” เผยผลงานครึ่งปีหลังรายได้ยังคงเดินหน้า หลังครึ่งปีแรกปันผล 0.12 บาทเอาใจผู้ถือหุ้น โดยปันผลจากกำไรสุทธิ 6 เดือนที่ผ่านมา ส่วน Q2/56 รายได้ กำไร รับผลจากการตั้งสำรองหนี้-รับรู้รายได้ทางบัญชี กระทบผลประกอบการรวมบ้าง แต่มั่นใจปี 2557 รายได้จะออกมาดีมากหลังการตัดต้นงวดหมด จะสามารถรับรู้รายได้เต็มที่ 100%
นายปิยะ พงษ์อัชฌา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการติดตามเร่งรัดหนี้ บริหารหนี้ด้อยคุณภาพ และให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มือสองระดับแนวหน้าของไทย เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดสินเชื่อในครึ่งปีหลังนี้มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากนโยบายรถคันแรก และการปล่อยสินเชื่อของภาคเอกชน ซึ่งเป็นโอกาสของบริษัทฯ ให้เข้าไปประมูลซื้อหนี้เพิ่มอย่างต่อเนื่องได้ และในปีนี้ บริษัทฯ คาดจะใช้เงินลงทุนในการซื้อหนี้เข้ามาบริหารราว 500 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายซื้อหนี้ด้อยคุณภาพมาบริหารเพิ่มอีกจำนวน 1 หมื่นล้านบาท ส่วนผลงานทั้งปีคาดจะมีรายได้ลดลงราว 9% เมื่อเทียบกับปีก่อนในพอร์ตการบริหารหนี้ แต่จะมีแนวโน้มเติบโตขึ้นมากในปี 2557 จากการรับรู้รายได้ทั้ง 100% ของมูลหนี้ขนาดใหญ่ที่ซื้อมาบริหาร
“ดีมานด์ในตลาดยังมีอยู่มาก เนื่องจากมีหนี้ในระบบค่อนข้างเยอะ และเป็นโอกาสของ JMT ให้เข้าไปซื้อหนี้เข้ามาบริหารเพิ่มได้อย่างต่อเนื่อง ในส่วนของธุรกิจการจัดเก็บหนี้ของบริษัทฯ ในช่วงที่ผ่านมา ก็สามารถจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และผลงานในปีนี้คาดว่าจะมีรายได้ลดลงในปี 2556 นั้น เนื่องจากกระแสเงินสดรับเมื่อเทียบกับประมาณการจัดเก็บหนี้ของโครงการ มีจำนวนมากกว่า ทำให้ส่งผลต่อลูกหนี้ต้นงวดคงเหลือลดน้อยลง ซึ่งเป็นกลยุทธ์ของบริษัทในการเร่งเก็บกระแสเงินสดรับ เพื่อลดความเสี่ยง และลดต้นทุนทางการเงิน จึงทำให้การรับรู้รายได้ทางบัญชีลดลง แต่จะส่งผลดีต่อรายได้ในปี 2557 ที่จะสามารถรับรู้รายได้เพิ่มขึ้นจากกระแสเงินสดรับจริง 100% สำหรับหนี้กองใหญ่ที่บริษัทกำลังจะตัดลูกหนี้ต้นงวดนั้นคาดจะหมดในราวสิ้นไตรมาส 1 ปี 2557 ซึ่งเป็นสิ่งที่คาดว่านักลงทุนจะเข้าใจในธุรกิจบริษัทฯ เพิ่มมากขึ้น” นายปิยะ กล่าว
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อยงวดไตรมาส 2/2556 (สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2556) มีรายได้อยู่ที่ 87.71 ล้านบาท และกำไรสำหรับงวด 19.98 ล้านบาท ส่วนรายได้งวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 101.17 ล้านบาท ลดลง 13.46 ล้านบาท หรือร้อยละ 13.31 เนื่องจากบริษัทฯ มีการตั้งสำรองทางบัญชีของสินเชื่อรถยนต์มือสองที่ปล่อยสินเชื่อในปีที่แล้ว รวมทั้งรายได้จากการซื้อหนี้ด้อยคุณภาพลดลงจาก 74.44 ล้านบาท ในปี 2555เป็น 63.73 ล้านบาท ในปี 2556 คิดเป็นการปรับลดลง 10.71 ล้านบาท หรือร้อยละ 14.3 แต่อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติจ่ายปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสด ในอัตราหุ้นละ 0.12 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 23สิงหาคมนี้ และวันที่จ่ายปันผลวันที่ 6 กันยายน 2556
