ตาก - เจ้าของรถถ่ายลำรถยนต์มือสองจากญี่ปุ่นใน อ.แม่สอดมีสิทธิถูกปรับคันละ 1,000 บาทหากจอดในไทยเกิน 30 วัน ระบุมีรถจมน้ำที่อาจส่งเข้าพม่าไม่ทันภายใน 30 วันกว่า 3,000 คัน วอนศุลกากรผ่อนผันลดความเดือดร้อน
รายงานข่าวจาก อ.แม่สอด จ.ตากแจ้งว่า จากการที่เกิดอุทกภัยใหญ่ในพื้นที่ชายแดนไทย-พม่า อ.แม่สอด จ.ตาก และมีรถยนต์มือสองนำถ่ายลำจากประเทศญี่ปุ่นผ่านไทยเข้าสู่พม่า ที่จอดพักรอการส่งเพื่อข้ามแม่น้ำเมยตามท่าเรือขนส่งสินค้าฝั่งไทยไปพม่า ได้ถูกกระแสน้ำพัดหายไปในแม่น้ำและส่วนใหญ่ถูกน้ำท่วมเสียหายกว่า 3,000 คัน คิดเป็นมูลค่าความเสียหายหลายพันล้านบาท
ขณะนี้รถยนต์บางส่วนต้องขนหนีไปจอดตามสถานที่ต่างๆ ในฝั่งไทย ที่บ้านท่าอาจ หมู่ 3 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด เช่น สองข้างถนนในหมู่บ้าน ที่วัดท่าอาจ และลานกีฬาหมู่บ้าน
ในส่วนที่จมน้ำเมยหายไปนั้นนักธุรกิจผู้สั่งซื้อชาวพม่าได้ว่าจ้างแรงงานและอุปกรณ์การชักลากและรถยกเพื่อทำการกู้ซากรถที่จมในแม่น้ำเพื่อนำมาซ่อมแซม นับเป็นความเสียหายอย่างมหาศาลของผู้ประกอบการค้ารถมือสองชาวพม่า
สำหรับรถมือสองญี่ปุ่นนั้นจะต้องได้รับผลกระทบที่ตามมาอีก คือเมื่อมีการนำมาจอดในฝั่งไทยเพื่อรอการส่งออกข้ามไปพม่านั้น หากเกินกำหนดระยะเวลา 30 วันนับแต่มีการนำผ่านถ่ายลำมาที่ชายแดนแม่สอด ตามระเบียบของกรมศุลกากร กระทรวงการคลัง ที่ผู้ขออนุญาตนำถ่ายลำได้ยื่นขออนุญาตไว้ตามหลักฐานเอกสาร จะต้องถูกปรับคันละ 1,000 บาท หากยังไม่ส่งออกภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ 30 วันดังกล่าว
ปัญหานี้นับว่าเป็นปัญหาที่นักธุรกิจผู้ประกอบการค้ารถมือสองจะต้องประสบตามมาอีกระลอกหนึ่ง เพราะสถานการณ์เช่นนี้เชื่อว่าพ่อค้ารถไม่สามารถนำเข้าพม่าได้ทันตามกำหนดอย่างแน่นอน ซึ่งผู้ประกอบการอาจจะต้องมีการยื่นหนังสือขอผ่อนผันหรือขยายเวลาการนำเข้าพม่าเนื่องจากเกิดอุทกภัยดังกล่าว
อย่างไรก็ดี ปัญหาดังกล่าวอยู่ที่ผู้บริหารระดับสูงของกรมศุลกากรในการพิจารณาแก้ไขปัญหาให้พ่อค้ารถที่ได้รับผลกระทบและความเดือดร้อนในครั้งนี้
เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรแม่สอดกล่าวว่า รถยนต์มือสองจากญี่ปุ่นเป็นสินค้าผ่านถ่ายลำ และเมื่อเกิดอุทกภัยน้ำท่วมตามท่าเรือขนส่งสินค้าริมแม่น้ำเมยได้รับความเสียหายนั้น เป็นข้อตกลงระหว่างผู้ประกอบการท่าขนส่งสินค้ากับเจ้าของรถยนต์ที่สั่งนำเข้าไปพม่า และหากมีการนำมาจอดในประเทศไทยนานเกิน 30 วันก็จะต้องเสียค่าปรับตามระเบียบและกฎหมายศุลกากร คือเมื่อตรวจสอบเอกสารการนำเข้าถ่ายลำพบว่าเกินกำหนดเวลาประมาณ 1 เดือน ก็จะต้องถูกปรับคันละ 1,000 บาทตามระเบียบของกรมศุลกากร โดยจะต้องมีการตรวจสอบเอกสารอีกครั้งหนึ่ง
