ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผบช.ภ.2 คุมมือปืนว่าที่เจ้าบ่าวจอมโฉด "หลำ บ้านไร่" ยิงว่าที่เจ้าสาวและแม่ยายเสียชีวิตสุดเหี้ยมแถมส่ายก้นหยัน มาแถลงข่าวสารภาพหลังตามจับกุมได้ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากัมพูชา เจ้าตัวอ้างหึงว่าที่เจ้าสาวที่ไปชอบเจ้าของอู่ ซึ่งเป็นเพื่อนของตนเอง ส่วนที่ยิงแม่ยาย เพราะชอบยุให้ลูกสาวเลิกกับตนหลังหมดเงินไปหลายล้านบาท
วานนี้ (12 ส.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (ผบช.ภ.2) พร้อมด้วย พล.ต.ต.นิวัฒน์ รัตนาธรรมวัตร รอง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.กิตติพงษ์ เงามุข ผบก.สส.ภ.2 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ ได้ควบคุมตัวนายธเนตร์ หรือยศพล แหก้าน ฉายา "หลำ บ้านไร่" อายุ 36 ปี ว่าที่เจ้าบ่าวมือฆ่า 2 ศพ คือ น.ส.เกวลิน หรือน้องวิว หงส์ทอง อายุ 28 ปีว่าที่เจ้าสาว และนางวิมล หงส์ทอง อายุ 53 ปีว่าที่แม่ยายเสียชีวิตเมื่อวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา มาแถลงข่าวหลังจากตำรวจภูธรภาค 2 ร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี นำหมายศาลจังหวัดชลบุรี เลขที่ จ 469/2556 ลงวันที่ 8 ส.ค.56 ไล่ล่าจับกุมนายธเนตร์ ได้ที่จุดตรวจโคกสูงที่ 38 ม.1 ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ขณะเตรียมหนีเข้า จ.เสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนและกระสุนปืนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ
ทั้งนี้ นายธเนตร์ ให้การรับสารภาพว่า ตามกำหนดเดิมตนจะแต่งงานกับว่าที่เจ้าสาวคือน้องวิว ผู้ตาย ในวันที่ 28 ส.ค.56 นี้ แต่ได้เปลี่ยนไปเป็นวันที่ 28 พ.ย.56 และมาในระยะหลังน้องวิว ว่าที่เจ้าสาวชอบเล่น line และ facebook หาภรรยาของนายไพศาล งามสุวรรณ หรือโอ๋ เจ้าของอู่ที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นเพื่อนกับนายธเนตร์ หรือทศพล มานาน ในทำนองว่าหึงน้องวิว เพราะว่านายโอ๋ มาชอบน้องวิว แต่ความจริงคือน้องวิว ไม่ชอบนายโอ๋ นายธเนตร์ จึงพยายามบอกให้น้องวิว หยุดพฤติกรรมทั้งหมดมาหลายครั้งแล้ว แต่น้องวิว ก็ยังไม่หยุด จึงโกรธ
ส่วนที่ยิงแม่ยายด้วยนั้น นายธเนตร์ บอกว่า เพราะตนเองหมดเงินไปกับครอบครัวนี้หลายล้านบาท จนจะไม่มีจะให้แล้ว สุดท้ายตกลงกันไม่ได้ในเรื่องสินสอด ที่แม่ยายเรียก 5 แสนบาท แต่ตนมีแค่ 2.4 แสนบาท พร้อมกับให้ซื้อรถยนต์มือสองอีก 1 คันให้น้องชายของน้องวิว พอหาเงินไม่ได้ก็พยายามยุให้น้องวิว เลิกกับตน
จนกระทั่งวันเกิดเหตุได้รับทั้งคู่มาที่อู่ พอมาถึงก็พูดไม่รู้เรื่องและปฎิเสธว่าไม่มีอะไร กลายเป็นว่าตนหึงน้องวิว แต่ฝ่ายเดียว จึงควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ ลงมือยิงดังกล่าว ส่วนที่เต้นส่ายก้นนั้นไม่ใช่เพราะอยากเป็นข่าว ไม่รู้ว่ามีกล้องวงจรปิด แต่เป็นความรู้สึกโล่งอกที่สามารถยุติปัญหาเรื่องความรักกับครอบครัวนี้ได้เสียที
พล.ต.ท.วินัย กล่าวว่า เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ กระทำการอย่างอุกอาจ เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่อนุญาตให้ประกันตัวและจะคัดค้านยการประกันอย่างเต็มที่ เพราะผู้ต้องหาเคยก่อคดีเกี่ยวกับอาวุธปืน จนถูกลงโทษติดคุกมาหลายครั้ง นอกจากนี้ยังพัวพันแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ในชลบุรีอีกด้วย
สำหรับเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา นายธเนตร์ หรือยศพล แหก้าน ฉายา "หลำ บ้านไร่" กับ น.ส.เกวลิน ซึ่งเป็นคู่หมั้นกันและเตรียมจะเข้าพิธีแต่งงานในวันที่ 28 ส.ค.นี้ โดยในวันเกิดเหตุนายธเนตร์ หรือยศพล ได้นัด น.ส.เกวลิน พร้อมมารดาออกมาตกลงปัญหาเรื่องความรักและพูดคุยถึงเรื่องงานแต่งงานที่จะมีขึ้นที่ร้านเกิดเหตุ แต่จู่ๆ นายธเนตร์ ได้ชักอาวุธปืนขนาด 9 มม.ออกมากระหน่ำยิง น.ส.เกวลิน เสียชีวิตเป็นรายแรก จากนั้นได้ยิงนางวิมล ล้มฟุบเสียชีวิตเป็นรายที่สอง และยังเดินยักย้ายส่ายสะโพกเป็นการเยาะเย้ยคนตาย ก่อนหลบหนีไป โดยเหตุการณ์ทั้งหมดกล้องวงจรปิดของทางร้านสามารถบันทึกไว้ได้อย่างชัดเจน และทันทีที่ภาพเหตุการณ์นี้เผยแพร่ออกไปทำให้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงพฤติกรรมอันโหดเหี้ยม ความเลือดเย็นของคนร้าย และเรียกร้องให้ทางตำรวจเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีให้ได้ กระทั่งสามารถจับกุมได้ในที่สุด.
วานนี้ (12 ส.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (ผบช.ภ.2) พร้อมด้วย พล.ต.ต.นิวัฒน์ รัตนาธรรมวัตร รอง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.กิตติพงษ์ เงามุข ผบก.สส.ภ.2 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ ได้ควบคุมตัวนายธเนตร์ หรือยศพล แหก้าน ฉายา "หลำ บ้านไร่" อายุ 36 ปี ว่าที่เจ้าบ่าวมือฆ่า 2 ศพ คือ น.ส.เกวลิน หรือน้องวิว หงส์ทอง อายุ 28 ปีว่าที่เจ้าสาว และนางวิมล หงส์ทอง อายุ 53 ปีว่าที่แม่ยายเสียชีวิตเมื่อวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา มาแถลงข่าวหลังจากตำรวจภูธรภาค 2 ร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี นำหมายศาลจังหวัดชลบุรี เลขที่ จ 469/2556 ลงวันที่ 8 ส.ค.56 ไล่ล่าจับกุมนายธเนตร์ ได้ที่จุดตรวจโคกสูงที่ 38 ม.1 ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ขณะเตรียมหนีเข้า จ.เสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนและกระสุนปืนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ
ทั้งนี้ นายธเนตร์ ให้การรับสารภาพว่า ตามกำหนดเดิมตนจะแต่งงานกับว่าที่เจ้าสาวคือน้องวิว ผู้ตาย ในวันที่ 28 ส.ค.56 นี้ แต่ได้เปลี่ยนไปเป็นวันที่ 28 พ.ย.56 และมาในระยะหลังน้องวิว ว่าที่เจ้าสาวชอบเล่น line และ facebook หาภรรยาของนายไพศาล งามสุวรรณ หรือโอ๋ เจ้าของอู่ที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นเพื่อนกับนายธเนตร์ หรือทศพล มานาน ในทำนองว่าหึงน้องวิว เพราะว่านายโอ๋ มาชอบน้องวิว แต่ความจริงคือน้องวิว ไม่ชอบนายโอ๋ นายธเนตร์ จึงพยายามบอกให้น้องวิว หยุดพฤติกรรมทั้งหมดมาหลายครั้งแล้ว แต่น้องวิว ก็ยังไม่หยุด จึงโกรธ
ส่วนที่ยิงแม่ยายด้วยนั้น นายธเนตร์ บอกว่า เพราะตนเองหมดเงินไปกับครอบครัวนี้หลายล้านบาท จนจะไม่มีจะให้แล้ว สุดท้ายตกลงกันไม่ได้ในเรื่องสินสอด ที่แม่ยายเรียก 5 แสนบาท แต่ตนมีแค่ 2.4 แสนบาท พร้อมกับให้ซื้อรถยนต์มือสองอีก 1 คันให้น้องชายของน้องวิว พอหาเงินไม่ได้ก็พยายามยุให้น้องวิว เลิกกับตน
จนกระทั่งวันเกิดเหตุได้รับทั้งคู่มาที่อู่ พอมาถึงก็พูดไม่รู้เรื่องและปฎิเสธว่าไม่มีอะไร กลายเป็นว่าตนหึงน้องวิว แต่ฝ่ายเดียว จึงควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ ลงมือยิงดังกล่าว ส่วนที่เต้นส่ายก้นนั้นไม่ใช่เพราะอยากเป็นข่าว ไม่รู้ว่ามีกล้องวงจรปิด แต่เป็นความรู้สึกโล่งอกที่สามารถยุติปัญหาเรื่องความรักกับครอบครัวนี้ได้เสียที
พล.ต.ท.วินัย กล่าวว่า เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ กระทำการอย่างอุกอาจ เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่อนุญาตให้ประกันตัวและจะคัดค้านยการประกันอย่างเต็มที่ เพราะผู้ต้องหาเคยก่อคดีเกี่ยวกับอาวุธปืน จนถูกลงโทษติดคุกมาหลายครั้ง นอกจากนี้ยังพัวพันแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ในชลบุรีอีกด้วย
สำหรับเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา นายธเนตร์ หรือยศพล แหก้าน ฉายา "หลำ บ้านไร่" กับ น.ส.เกวลิน ซึ่งเป็นคู่หมั้นกันและเตรียมจะเข้าพิธีแต่งงานในวันที่ 28 ส.ค.นี้ โดยในวันเกิดเหตุนายธเนตร์ หรือยศพล ได้นัด น.ส.เกวลิน พร้อมมารดาออกมาตกลงปัญหาเรื่องความรักและพูดคุยถึงเรื่องงานแต่งงานที่จะมีขึ้นที่ร้านเกิดเหตุ แต่จู่ๆ นายธเนตร์ ได้ชักอาวุธปืนขนาด 9 มม.ออกมากระหน่ำยิง น.ส.เกวลิน เสียชีวิตเป็นรายแรก จากนั้นได้ยิงนางวิมล ล้มฟุบเสียชีวิตเป็นรายที่สอง และยังเดินยักย้ายส่ายสะโพกเป็นการเยาะเย้ยคนตาย ก่อนหลบหนีไป โดยเหตุการณ์ทั้งหมดกล้องวงจรปิดของทางร้านสามารถบันทึกไว้ได้อย่างชัดเจน และทันทีที่ภาพเหตุการณ์นี้เผยแพร่ออกไปทำให้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงพฤติกรรมอันโหดเหี้ยม ความเลือดเย็นของคนร้าย และเรียกร้องให้ทางตำรวจเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีให้ได้ กระทั่งสามารถจับกุมได้ในที่สุด.