กองทุน “ตลาดหุ้นร่วมใจ ช่วยภัยน้ำท่วม” ร่วมกับกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม จัดทำโครงการฟื้นฟูโบราณสถานที่ประสบอุทกภัยในปี 2554 หลังจากช่วยเหลือผู้ประสบภัยฟื้นฟู และพัฒนาโรงเรียนที่ประสบอุทกภัยแล้ว มุ่งเน้นฟื้นฟูโบราณสถานที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรม และเป็นศูนย์รวมจิตใจที่สำคัญของชุมชน ซึ่งมีกรมศิลปากรเป็นผู้ดูแลฟื้นฟู จำนวน 12 แห่ง ใน 7 จังหวัด ได้แก่ นนทบุรี สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สระบุรี สิงห์บุรี และลพบุรี
นายสมพล เกียรติไพบูลย์ ประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนตลาดหุ้นร่วมใจ ช่วยภัยน้ำท่วม เปิดเผยว่า หลังจากที่กองทุนฯ ได้ช่วยเหลือเยียวยา และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ประสบอุทกภัยในปี 2554 มาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงช่วยเหลือฟื้นฟูโรงเรียนผ่านโครงการ “คืนโรงเรียนให้ลูกหลาน สานสัมพันธ์ชุมชน” จำนวน 80 แห่ง โดยมุ่งหวังให้โรงเรียนกลับมาทำการเรียนการสอนได้ตามปกติ และได้ต่อยอดโครงการด้วยการพัฒนา และเพิ่มศักยภาพคุณครูให้รู้จักถึงการบริหารจัดการโรงเรียน เพื่อนำแนวคิดไปต่อยอด และพัฒนาชุมชนได้อย่างยั่งยืน และจากการลงสำรวจ และทำงานในพื้นที่อย่างจริงจัง คณะกรรมการกองทุนฯ ได้เห็นความจำเป็นและความสำคัญต่อการฟื้นฟูสถานที่ และศาสนสถานที่ได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งโบราณสถานที่มีคุณค่ามหาศาลทั้งคุณค่าด้านวัฒนธรรม เศรษฐกิจ สังคม การศึกษา และสุนทรียศาสตร์ แต่ยังขาดแคลนงบประมาณจากทางราชการ จึงเห็นว่ากองทุนฯ ควรเข้าไปช่วยเหลือบูรณปฏิสังขรณ์ เพื่อให้กลับมาเป็นศูนย์รวม และเป็นที่พึ่งทางด้านจิตใจของชุมชน คนไทยต่อไป
นายสนธยา คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรม ขอขอบคุณกองทุนฯ ที่ได้ตระหนักถึงความสำคัญในด้านศาสนาและวัฒนธรรม โดยขยายวัตถุประสงค์ของกองทุนฯ ในด้านการศึกษาออกไปสู่ด้านศาสนาและวัฒนธรรมเพิ่มเติม โดยสนับสนุนโครงการฟื้นฟูโบราณสถานที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยเพิ่มขึ้น เพื่อให้โบราณสถานเหล่านั้นได้กลับคืนมาสวยงาม ทรงคุณค่า และเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวบ้านในพื้นที่ ตลอดจนเป็นมรดกของชาติไทยต่อไป
นายเอนก สีหามาตย์ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวถึงแนวทางการฟื้นฟูโบราณสถาน ว่า กรมศิลปากรจะดำเนินการฟื้นฟูบูรณะโบราณสถานทางด้านกายภาพตามหลักวิชาการที่ถูกต้อง ควบคู่กับการปรับปรุงสิ่งก่อสร้างในบริเวณโดยรอบ พร้อมทั้งให้ความรู้ คำแนะนำ และประสานความร่วมมือกับวัดเจ้าของสถานที่ ตลอดจนประชาชนในพื้นที่เพื่อนำไปสู่ความร่วมมือร่วมใจกันในการปกป้อง ดูแล รักษามรดกทางศิลปวัฒนธรรมของชาติให้คงอยู่สืบไป
กองทุน “ตลาดหุ้นร่วมใจ ช่วยภัยน้ำท่วม” จัดตั้งโดยความร่วมมือจากองค์กรต่างๆ ในภาคตลาดทุน ประกอบด้วย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สำนักงาน ก.ล.ต. สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย สมาคมบริษัทจัดการลงทุน สภาธุรกิจตลาดทุนไทย สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย สมาคมบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ และสมาคมนักศึกษาสถาบันวิทยาการตลาดทุน เพื่อช่วยเหลือประชาชน โรงเรียน สาธารณสถานต่างๆ ที่ประสบอุทกภัยในปี 2554 ตั้งแต่การช่วยเหลือเยียวยาเฉพาะหน้า การฟื้นฟูหลังน้ำลด และการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระยะยาว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงพลังที่แข็งแกร่งของภาคตลาดทุนในการร่วมมือและพร้อมให้ความช่วยเหลือสังคมไทยในยามเกิดวิกฤตการณ์
นายสมพล เกียรติไพบูลย์ ประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนตลาดหุ้นร่วมใจ ช่วยภัยน้ำท่วม เปิดเผยว่า หลังจากที่กองทุนฯ ได้ช่วยเหลือเยียวยา และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ประสบอุทกภัยในปี 2554 มาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงช่วยเหลือฟื้นฟูโรงเรียนผ่านโครงการ “คืนโรงเรียนให้ลูกหลาน สานสัมพันธ์ชุมชน” จำนวน 80 แห่ง โดยมุ่งหวังให้โรงเรียนกลับมาทำการเรียนการสอนได้ตามปกติ และได้ต่อยอดโครงการด้วยการพัฒนา และเพิ่มศักยภาพคุณครูให้รู้จักถึงการบริหารจัดการโรงเรียน เพื่อนำแนวคิดไปต่อยอด และพัฒนาชุมชนได้อย่างยั่งยืน และจากการลงสำรวจ และทำงานในพื้นที่อย่างจริงจัง คณะกรรมการกองทุนฯ ได้เห็นความจำเป็นและความสำคัญต่อการฟื้นฟูสถานที่ และศาสนสถานที่ได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งโบราณสถานที่มีคุณค่ามหาศาลทั้งคุณค่าด้านวัฒนธรรม เศรษฐกิจ สังคม การศึกษา และสุนทรียศาสตร์ แต่ยังขาดแคลนงบประมาณจากทางราชการ จึงเห็นว่ากองทุนฯ ควรเข้าไปช่วยเหลือบูรณปฏิสังขรณ์ เพื่อให้กลับมาเป็นศูนย์รวม และเป็นที่พึ่งทางด้านจิตใจของชุมชน คนไทยต่อไป
นายสนธยา คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรม ขอขอบคุณกองทุนฯ ที่ได้ตระหนักถึงความสำคัญในด้านศาสนาและวัฒนธรรม โดยขยายวัตถุประสงค์ของกองทุนฯ ในด้านการศึกษาออกไปสู่ด้านศาสนาและวัฒนธรรมเพิ่มเติม โดยสนับสนุนโครงการฟื้นฟูโบราณสถานที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยเพิ่มขึ้น เพื่อให้โบราณสถานเหล่านั้นได้กลับคืนมาสวยงาม ทรงคุณค่า และเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวบ้านในพื้นที่ ตลอดจนเป็นมรดกของชาติไทยต่อไป
นายเอนก สีหามาตย์ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวถึงแนวทางการฟื้นฟูโบราณสถาน ว่า กรมศิลปากรจะดำเนินการฟื้นฟูบูรณะโบราณสถานทางด้านกายภาพตามหลักวิชาการที่ถูกต้อง ควบคู่กับการปรับปรุงสิ่งก่อสร้างในบริเวณโดยรอบ พร้อมทั้งให้ความรู้ คำแนะนำ และประสานความร่วมมือกับวัดเจ้าของสถานที่ ตลอดจนประชาชนในพื้นที่เพื่อนำไปสู่ความร่วมมือร่วมใจกันในการปกป้อง ดูแล รักษามรดกทางศิลปวัฒนธรรมของชาติให้คงอยู่สืบไป
กองทุน “ตลาดหุ้นร่วมใจ ช่วยภัยน้ำท่วม” จัดตั้งโดยความร่วมมือจากองค์กรต่างๆ ในภาคตลาดทุน ประกอบด้วย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สำนักงาน ก.ล.ต. สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย สมาคมบริษัทจัดการลงทุน สภาธุรกิจตลาดทุนไทย สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย สมาคมบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ และสมาคมนักศึกษาสถาบันวิทยาการตลาดทุน เพื่อช่วยเหลือประชาชน โรงเรียน สาธารณสถานต่างๆ ที่ประสบอุทกภัยในปี 2554 ตั้งแต่การช่วยเหลือเยียวยาเฉพาะหน้า การฟื้นฟูหลังน้ำลด และการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระยะยาว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงพลังที่แข็งแกร่งของภาคตลาดทุนในการร่วมมือและพร้อมให้ความช่วยเหลือสังคมไทยในยามเกิดวิกฤตการณ์