“วันชัย เหลืองวิริยะ” บิ๊ก “อัคคีปราการ” เผยกำไรครึ่งปีแรกลดลงจากปีก่อน เป็นผลจากต้นทุนจากการให้บริการพุ่งเมื่อเทียบกับปี 2555 เนื่องจากรับรู้ค่าใช้จ่ายจากการซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ในรอบ 5 ปี เพิ่มขึ้นจากค่าใช้จ่ายปกติ ซึ่งเป็นการรับรู้เพียงครั้งเดียว มั่นใจครึ่งปีหลังกลับมาโชว์ฟอร์มเยี่ยมเหมือนเดิม เหตุยังทำรายได้เติบโตอัตรา 20-30% ได้ตามเป้า
นายวันชัย เหลืองวิริยะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อัคคีปราการ จำกัด (มหาชน) (AKP) ผู้บริหารศูนย์บริหารจัดการวัสดุเหลือใช้อุตสาหกรรม (เตาเผาขยะอุตสาหกรรม) บางปู จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นเตากำจัดกากอุตสาหกรรมอันตรายด้วยวิธีการเผาด้วยความร้อนสูงที่ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมแห่งเดียวในประเทศไทย เปิดเผยถีงผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2/2556 (เมษายน-มิถุนายน 2556) ว่า บริษัทฯ มีรายได้จากการให้บริการกำจัดกากอุตสาหกรรม จำนวน 110.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้น จำนวน 28.66 ล้านบาท คิดเป็นอัตราร้อยละ 35 เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ของปี 2555 ที่ทำได้ 82.27 ซึ่งเป็นผลจากการปรับอัตราค่าบริการกำจัดกากอุตสาหกรรมเฉลี่ย (บาทต่อตัน) เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 56 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้บริษัทฯ มีรายได้สะสม 6 เดือน จำนวน 208.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น จำนวน 42.86 ล้านบาท คิดเป็นอัตราร้อยละ 26 เมื่อเปรียบเทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 165.66 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม สำหรับไตรมาส 2 ของปี 2556 บริษัทมีต้นทุนจากการให้บริการกำจัดกากอุตสาหกรรม จำนวน 89.15 ล้านคิดเป็นอัตราร้อยละ 80 ของรายได้เมื่อเทียบกับปี 2556 ซึ่งอยู่ที่ 54.48 ล้านบาท คิดเป็นอัตราร้อย 66 โดยปัจจัยหลักในการเพิ่มขึ้นของต้นทุนบริการเกิดจากต้นทุนคงที่อันประกอบไปด้วย เงินเดือน และผลตอบแทนพนักงานส่วนปฏิบัติการเพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจโดยรวม โสหุ้ยการผลิตส่วนที่เป็นค่าเสื่อมราคาเครื่องจักร และอุปกรณ์ ยานพาหนะเพื่อการขนส่งค่าซ่อมแซมปรับปรุงระบบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน ทำให้ต้นทุนคงที่เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 11.01 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน สะท้อนให้ต้นทุนสะสม 6 เดือน สิ้นสุดไตรมาส 2 ของปี 2556 มีจำนวน 161.22 ล้านบาท คิดเป็นอัตราร้อยละ 77 จากปี 2555 ซึ่งอยู่ที่ 114.77 ล้านบาท หรือร้อยละ 69 ทำให้บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายต่างๆ อยู่ในอัตราใกล้เคียงกันเมื่อเทียบกับรายได้รวม ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสำหรับไตรมาส 2 จำนวน 3.43 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่ทำได้ 12.20 ล้านบาท และยอดสะสม 6 เดือน จำนวน 14.66 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน ที่ทำได้ 22.50 ล้านบาท
“ปัจจัยหลักของกำไรที่ลดลงในไตรมาสที่ 2/2556 มาจากที่เราต้องรับรู้ค่าใช้จ่ายจากการซ่อมบำรุงใหญ่ในรอบ 5 ปี ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีใหม่ที่ทันสมัยขึ้น ทำให้ต้นทุนในส่วนนี้สูงขึ้นอย่างชัดเจน แต่จะเป็นการรับรู้เพียงครั้งเดียว และจะไม่เกิดขึ้นอีกในครึ่งปีหลัง ดังนั้น จึงมั่นใจว่า AKP จะกลับมาโชว์ผลงานที่โดดเด่นอีกครั้งในครึ่งปีหลังนี้ เพราะเรายังสร้างรายได้ให้เติบโตในอัตรา 20-30% ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ประกอบกับทั้งจำนวนลูกค้า และปริมาณกากอุตสาหกรรมที่เข้าเผาทำลายด้วยเตาความร้อนสูงยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากการเข้มงวดของภาครัฐ และการเดินหน้าใช้ทีมงานการตลาดเจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง” นายวันชัยกล่าว