ตลาดหุ้นไทยปิดลบ 14.91 จุด อยู่ที่ระดับ 1,432.25 จุด หรือปรับตัวลดลง -1.03% มูลค่าการซื้อขายกว่า 31,244.35 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติยังเทขายต่อเนื่อง จากความกังวลต่อมาตรการชะลอ หรือยกเลิก QE และการชุมชุมประท้วง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมวาระ 2
ตลาดหุ้นไทยวันนี้ (9 ส.ค.) ดัชนีหลักทรัพย์ปรับตัวอยู่ในแดนลบตลอดทั้งวัน หลังจากแกว่งตัวขึ้นลงตลอดทั้งสัปดาห์ โดยปิดที่ระดับ 1,432.25 จุด ลดลง 14.91จุด หรือ -1.03% มูลค่าการซื้อขาย 31,244.35 ล้านบาท
หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลง เพิ่มขึ้น 244 หลักทรัพย์ ลดลง 377 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 194 หลักทรัพย์
การซื้อขายสุทธิแยกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า สถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 1,919.54 ล้านบาท นักลงทุนทั่วไปซื้อสุทธิ 1,042.68 ล้านบาท ในขณะที่บัญชีบริษัทหลักหลักทรัพย์ (บล.) ขายสุทธิ 1,610.30 ล้านบาท และนักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 1,351.91 ล้านบาท
หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
BTS ปิดที่ 8.60 บาท เพิ่มขึ้น +0.20 บาท หรือ +2.38% มูลค่าการซื้อขาย 1,852,235 ล้านบาท
ADVANC ปิดที่ 282.00 ลดลง -3.00 บาท หรือ -1.05% มูลค่าการซื้อขาย 1,452,758 ล้านบาท
SCB ปิดที่ 152.50 บาท ลดลง -2.50 หรือ -1.61% มูลค่าการซื้อขาย 1,385,492 ล้านบาท
CK ปิดที่ 19.40 เพิ่มขึ้น +0.10 บาท หรือ +0.52% มูลค่าการซื้อขาย 1,267,236 ล้านบาท
INTUCH ปิดที่ 89.25 ลดลง -1.25 บาท หรือ -1.38% มูลค่าการซื้อขาย 1,261,237 ล้านบาท
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่าวันนี้นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากที่ เมื่อวาน (8 ส.ค.) ดัชนีหุ้นปรับตัวขึ้นมาบวกขานรับทางการเมือง และมีนักลงทุนบางส่วนที่ชะลอการลงทุนเนื่องจากวันหยุดยาวติดต่อกัน 3 วัน อย่างไรก็ดี ในวันนี้ที่ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงมามากเนื่องจากหุ้น บมจ.สยามแม็คโคร หรือ MAKRO ปรับตัวลดลงมามากประมาณ 6 จุด ซึ่งมีผลโดยปริยายฉุดให้ดัชนีกลุ่มค้าปลีกปรับตัวลดลงตามมาด้วย โดยดัชนีหุ้น MAKRO เองก็อยู่ในการคำนวนของดัชนี SET50 ด้วย และนักลงทุนต่างประเทศเองก็ขายต่อเนื่องติดต่อมาเป็นวันที่ 7
ทั้งนี้ ในสัปดาห์หน้าคาดว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยจะยังคงผันผวนอยู่บ้าง โดยอาจจะปรับตัวขึ้นลงทั้งแดนบวก และแดนลบสลับกัน ซึ่งนักลงทุนอาจจะเข้ามาเก็งกำไรจากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ประกาศออกมาในไตรมาสที่ 2 และอาจจะมีการเก็งกำไรในส่วนของสภาที่จะผ่านร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2.2 ล้านล้านบาท โดยคาดว่า พ.ร.บ.กู้เงิน 2.2 ล้านล้านบาท จะไม่มีปัญหาอะไร เพราะฉะนั้น กลุ่มรับเหมายังคงเป็นกลุ่มที่น่าสนใจอยู่
ในส่วนของ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่คาดว่าจะรีบเสนอต่อเนื่องภายใน 7 วัน หลังจากผ่านวาระแรกมาแล้วนั้น อาจจะต้องเลื่อนออกไปก่อน เนื่องจากสภาจะพิจารณางบประมาณประจำปี 2557 ทั้งนี้ คาดว่าจะเป็นสัปดาห์ที่ 3-4 ของเดือนสิงหาคม ที่จะเสนอยื่น พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เข้าสภาในวาระที่ 2
อย่างไรก็ดี ในช่วงของปลายเดือนสิงหาคม นักลงทุนต้องจับตาเฝ้าระวังการยื่นเสนอ พ.ร.บ. นิรโทษกรรม ในวาระที่ 2-3 ซึ่งช่วงนี้จะอยู่ในช่วงการเก็งกำไรจากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 2 และการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด จะยกเลิก หรือชะลอมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน หรือ QE ในเดือนกันยายนออกไปก่อน อาจจะทำให้นักลงทุนมีความกังวลมากขึ้น
ทั้งนี้ แนวโน้มการลงทุนดัชนีแนวรับคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 1,430 จุด ส่วนดัชนีแนวต้านคาดว่าจะอยู่ที่ 1,445-1,450 จุด ขณะที่ในสัปดาห์หน้านั้น ดัชนีแนวรับคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 1,410-1,415 จุด และดัชนีแนวต้านคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 1,455-1,465 จุด