ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ คาดเดือนสิงหาคมทองคำยังวิกฤตผันผวน จากมาตรการ QE ที่ยังไม่ชัดเจน และชะลอต่อเนื่องไปถึงปีหน้า ขณะที่กองทุน SPDR เทขายทองไปแล้วตั้งแต่ต้นปีกว่า 423 ตัน แนะนักลงทุนรอจังหวะทยอยซื้อทำกำไรเมื่อราคาทองคาดอ่อนตัวในQ4
นายภูษิต วงศ์หล่อสายชล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวว่า แนวโน้มการเทขายทองคำของนักลงทุนในเดือนสิงหาคมยังเทขายอย่างต่อเนื่อง โดยผ่านมา 2 สัปดาห์ กองทุนทองคำต่างๆ ได้เทขายทองคำไปแล้วมากกว่า 10 ตัน โดยกองทุน SPDR มีการระบายทองออกจากกองทุนเป็นจำนวนมากตั้งแต่ต้นปีมาจนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคมทั้งสิ้นประมาณ 423 ตัน และมีการถือครองต่ำสุดในรอบ 4 ปี ซึ่งมีจำนวนการถือครองอยู่ที่ 927.35 ตัน
ในส่วนของแนวโน้มของภาวะทองคำในช่วงไตรมาส 3 ยังอยู่ในช่วงขาลงจาก ปัจจัยกดดันในเรื่องของนโยบายผ่อนกคลายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ QE ที่จะมีความชัดเจนในการชะลอมาตรการ QE ที่ชัดเจนขึ้น โดยในเดือนกันยายนปีนี้ เป็นเดือนที่นักลงทุนคาดว่าจะมีมาตรการชะลอ QE ต่อไปจะมีความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งเป็นผลทำให้ราคาทองคำปรับตัวลดลง และนักลงทุนจะเริ่มทยอยเทขายทองออกมามากขึ้น ประกอบกับเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว ทำให้ความต้องการทองคำลดลง ส่งผลทำให้ราคาทองลดลงตามไปด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ ปัจจัยค่าเงินบาทในช่วงครึ่งปีหลังยังเชื่อว่ามีความผันผวนต่อเนื่องจากช่วงครึ่งปีแรก ซึ่งเป็นผลจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ และการให้ความสำคัญกับเรื่องเสถียรภาพมากขึ้น ส่วนประเทศไทยยังมีความเสี่ยงเรื่องมาตรการรัฐที่ตลาดตอบรับในเชิงบวกไปก่อนหน้านี้แล้ว อย่าง พ.ร.ก.บริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท และโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2.2 ล้านล้านบาท ทำให้ราคาทองคำในประเทศจะไม่สอดคล้องกับทิศทางในตลาดโลกที่อยู่ในช่วงขาลง ทำให้ราคาทองคำในประเทศไม่สอดคล้องกับทิศทางในตลาดโลก
อย่างไรก็ดี การลงทุนระยะนี้ควรเน้นการลงทุนในทองคำระยะสั้น เนื่องจากทิศทางราคายังคงผันผวน และลดสัดส่วนการลงทุนระยะยาว ควรหาจังหวะการขายในช่วงราคาที่เหมาะสม แล้วทยอยซื้อกลับมาในอนาคต โดยในช่วงเดือนสิงหาคมของทุกปี ราคาทองมักจะมีความผันผวนรุนแรง นักลงทุนต้องใช้ความระมัดระวังในการลงทุน และติดตามการชะลอมาตรการ QE ในช่วง 4 เดือนหลัง ตั้งแต่กันยายน-ธันวาคม เพราะจะเป็นตัวกำหนดทิศทางในช่วงท้ายต่อเนื่องถึงปีหน้า