“จรัมพร” เชื่อม็อบไม่รุนแรง แต่ระวังเหตุไม่คาดฝัน เผยระบบสำรองเทรดพร้อมรับเหตุฉุกเฉิน

“จรัมพร” เชื่อม็อบไม่รุนแรง แต่ไม่ประมาทเตรียมคุมเข้มความปลอดภัย “ตลาดหุ้น” ป้องกันเหตุไม่คาดฝัน พร้อมทดสอบระบบสำรองซื้อขายเพื่อรองรับเหตุฉุกเฉิน ลั่นเดินหน้าจัดงาน “ไทยแลนด์โฟกัส 2013” ระหว่างวันที่ 28-30 ส.ค.นี้ คาดนักลงทุนทั่วโลกแห่ร่วมคึกคัก ด้านหุ้นไทยฮึดสู้การเมืองร้อนตะกายปิดบวก 5 จุด

นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า สาเหตุที่มูลค่าการซื้อขายต่อวันของตลาดหลักทรัพย์ไทยในช่วงนี้ค่อนข้างน้อยน่าจะมาจากการชะลอการลงทุนของนักลงทุน เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศที่ยังไม่มีความชัดเจน ซึ่งเชื่อว่านักลงทุนคงจะจับตาดูสถานการณ์อีกสักระยะ แต่ทั้งนี้ คาดว่าไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อตลาดทุนมากนักหากไม่มีเหตุการณ์รุนแรง เนื่องจากโดยธรรมชาตินักลงทุนไทยได้คุ้นเคยกับสถานการณ์การเมืองในประเทศอยู่แล้ว เพราะเกิดขึ้นบ่อยครั้ง

ทั้งนี้ ในส่วนของตลาดหลักทรัพย์ฯ เอง ก็ได้มีการเตรียมความพร้อมถึงระบบการรักษาความปลอดภัยต่างๆ ไว้อย่างเข้มงวด และรัดกุมแล้วหากเกิดเหตุการณ์รุนแรงแบบไม่คาดฝันขึ้น

นอกจากนี้ ตลท.ยังได้สั่งการให้บริษัทหลักทรัพย์ทำการทดสอบระบบสำรองในการส่งคำสั่งซื้อขายเพื่อรองรับหากเกิดกรณีฉุกเฉิน ซึ่งการทดสอบดังกล่าวถือเป็นการดำเนินการตามปกติที่ต้องมีการทดสอบอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเกิดปัญหาทางการเมือง น้ำท่วม ไฟฟ้า พร้อมทั้งดูแลความปลอดภัยของอาคารตามปกติ เพราะเชื่อว่าเหตุการณ์ทางการเมืองจะผ่านไปได้ แต่หากไม่มีเหตุการณ์ทางการเมืองจะดีกว่า

นายจรัมพร ยอมรับว่า ปัจจัยการเมืองทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุนในตลาดหุ้นไทยเพื่อรอดูสถานการณ์ ส่งผลให้มูลค่าการซื้อขายเบาบางลงมากจากวันละ 40,000 ล้านบาท เหลือประมาณ 20,000 ล้านบาท แต่นักลงทุนต่างชาติยังไม่มีการเทขายผิดปกติ โดยวานนี้มีนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิประมาณ 200 ล้านบาท

ส่วนกรณีที่บริษัทหลักทรัพย์ต่างๆ รวมถึงบริษัทจดทะเบียนได้มีการปรับประมาณการของผลการดำเนินงาน บจ. ลดลงในช่วงครึ่งปีหลังนั้น ทางตลาดหลักทรัพย์ฯ คงจะไม่มีการปรับเป้าหมายใดๆ เนื่องจากเพิ่งได้มีการปรับไป โดยได้ปรับมูลค่าการซื้อขายหุ้นเฉลี่ยต่อวันปีนี้เป็น 49,500 ล้านบาทต่อวัน

“เป้าที่มีการปรับกันออกมาก็เป็นไปตามมุมมองของโบรกเกอร์ และบริษัทต่างๆ แต่ในส่วนของตลาดหลักทรัพย์ฯ เองคงไม่มีการปรับอะไรอีก เพราะเพิ่งมีการปรับเพิ่มเป้าเฉลี่ยซื้อขายต่อวันไป สะท้อนที่ครึ่งปีแรกวอลุ่มสูงมากเกินเป้าเดิม ส่วนการเมืองคาดว่าคงจะไม่มีอะไรรุนแรง ไม่น่ากังวลมากนัก เพราะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นบ่อยๆ อยู่แล้ว คนไทยเองก็คงชินไปแล้ว”

ส่วนงานไทยแลนด์โฟกัส 2013 ซึ่งจะจัดระหว่างวันที่ 28-30 ส.ค. ประเมินว่า มีนักลงทุนสถาบันทั่วโลกไม่ต่ำกว่า 200 ราย เข้าร่วมในงานครั้งนี้ ซึ่งนับว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของการจัดงานดังกล่าว ที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2547 โดย ณ ปัจจุบัน มีผู้ลงทุนแจ้งเข้าร่วมงานแล้วทั่วโลกกว่า 150 คน โดยเป็นผู้บริหารระดับสูงของกอทุน ผู้จัดการกองทุน และผู้ลงทุนสถาบันชั้นนำจากอเมริกา แคนาดา กลุ่มประเทศยุโรป และเอเชีย

ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ถือว่าเป็นความภูมิใจของตลาดทุนไทยในการเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงตลาดทุนภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่มีอัตราการเติบโตสูง โดยได้เชิญผู้บริหารของตลาดหลักทรัพย์ และบริษัทจดทะเบียนจากกัมพูชา ลาว และเวียดนาม เข้าร่วมงานด้วย รวมแล้วจะมีบริษัทที่เข้านำเสนอข้อมูลทั้งสิ้นราว 121 บริษัท

ส่วนภาวะตลาดหุ้นไทยภาคบ่าย (6 ส.ค.) ดัชนียังคงยืนในแดนบวกโดยมีแรงซื้อในหุ้นแบงก์ และสื่อสารเข้ามาพยุงดัชนีต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 15.48 น. ดัชนีอยู่ที่ระดับ 1,436.94 จุด เพิ่มขึ้น 12.63 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.89% มูลค่าการซื้อขาย 22,540.79 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่ยังชะลอการลงทุนเพื่อดูความชัดเจนด้านการเมือง

ล่าสุด ดัชนีปิดตลาดที่ระดับ 1,429.39 จุด เพิ่มขึ้น 5.08 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.36% มูลค่าการซื้อขาย 28,585.22 ล้านบาท