เผยข่าว พ.ร.บ.มั่นคงฯ เขย่าขวัญนักลงทุน ตลาดฯ กังวลไฟการเมืองลามนอกสภาฯ

หุ้นปิดครึ่งวันเช้าดิ่งลงต่ออีก 17 จุด ดัชนีหลุดแนวรับสำคัญที่ 1,420 จุดเรียบร้อยแล้ว โดยมีแรงขายกระจายตัวทุกกลุ่ม โบรกฯ ผวาชุมนุม 4 ส.ค. รัฐจัดม็อบชนม็อบ ไฟการเมืองปะทุลามนอกสภาฯ “อารีพงศ์” ยอมรับข่าวรัฐบาลเตรียมประกาศใช้ พ.ร.บ.มั่นคงฯ กระทบการลงทุน และตลาดหุ้น เพราะที่ผ่านมาตลาดต่างมีความมั่นใจโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของรัฐบาล

ภาวะตลาดหุ้นไทย วันนี้ (31 ก.ค.) ดัชนีปิดครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,418.41 จุด ลดลง 17.03 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -1.19% มูลค่าการซื้อขาย 16,194.08 ล้านล้าน โดยพบว่ามีแรงขายกระจายในหุ้นหลักทุกกลุ่ม ส่งผลให้ดัชนีหลุดแนวรับสำคัญที่ 1,420 จุดเรียบร้อยแล้ว

นักวิเคราะห์ยอมรับว่า ตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้เคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ชะลอการลงทุน และเทขายออก เนื่องจากกังวลสถานการณ์การเมืองในประเทศที่อาจเกิดความรุนแรงในช่วงการเปิดสภาฯ ประกอบกับกระแสข่าวที่รัฐบาลอาจประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ เพื่อควบคุมกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่กังวลว่าอาจกระทบต่อการลงทุนในประเทศ นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด จะมีมาตรการอย่างไรเกี่ยวกับคิวอี

ด้านนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด มองว่าประเด็นการเมืองยังเป็นจัยจัยที่กดดันจิตวิทยาการลงทุน สะท้อนมายังมูลค่าการซื้อขายที่เบาบาง นับตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา บวกกับรอความชัดเจนต่อการประชุมเฟดในคืนนี้

ทั้งนี้ ทางฝ่ายวิเคราะห์คาดว่า เฟดจะคงนโยบายการเงินเช่นเดิม แต่ประเด็นสำคัญอยู่ที่มุมมองต่อแนวทางการชะลอคิวอี จะมีความชัดเจนเหมือนเช่นการประชุมครั้งก่อนหรือไม่ นอกจากนี้ นักลงทุนควรติดตามตัวเลขเศรษฐกิจเดือน มิ.ย. ของไทย โดยเฉพาะภาคการบริโภค และการลงทุนภายในประเทศ ซึ่งจะเป็นตัวแปรสำคัญต่อจีดีพี ในไตรมาส 2/56

ส่วนนักวิเคราะห์ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุว่า ดัชนีตลาดหุ้นจะได้รับแรงกดดันจากความเสี่ยงทางการเมือง จนกว่่าจะถึงวันเปิดประชุมสภา และการชุมนุมที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 4 ส.ค. จะเป็นปัจจัยใหม่เพิ่มแรงกดดันตลาด พร้อมประเมินว่า หุ้นตัวใหญ่จะยังซึม หรือกลับไปย่อตัวลงอีก แนะกลยุทธ์ ให้ชะลอการลงทุน หรือจำกัดพอร์ตในหุ้นขนาดกลางที่มีแนวโน้มกำไรโดดเด่น

นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง ยอมรับว่า หากรัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เพื่อดูแลการชุมนุมทางการเมืองในระหว่างที่มีการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยสามัญ ช่วงต้นเดือน ส.ค.นี้ อาจจะส่งผลต่อความกังวลของนักลงทุนได้ เพราะที่ผ่านมา ตลาดค่อนข้างมีความมั่นใจเกี่ยวกับนโยบายการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ต่างๆ ของรัฐบาล

“แต่จากข่าวที่เกิดขึ้นในระยะนี้ โดยเฉพาะข่าวที่เกี่ยวกับด้านความมั่นคงก็อาจทำให้นักลงทุนต่างรอดูสถานการณ์ ซึ่งส่งผลมาถึงการลงทุน และตลาดหุ้น”

นายอารีพงษ์ ย้ำว่า ที่ผ่านมาตลาดมีความมั่นใจในนโยบายต่างๆ ของภาครัฐ เช่น การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท ซึ่งจะช่วยทำให้เศรษฐกิจเติบโต แต่จากช่วงนี้ที่มีข่าวหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะด้านความมั่นคง ก็เป็นเรื่องปกติที่นักลงทุนต้องดูสถานการณ์ และกระทบถึงการลงทุนในตลาดหุ้น