“เจริญโภคภัณฑ์อาหาร” เข้าซื้อเงินลงทุนในหุ้นสามัญของ RBPI สัดส่วนไม่เกิน 83% หรือ
ประมาณ 3,151 ล้านบาท พร้อมใช้เงิน 1,200 ล้านบาท ซื้อหุ้นสามัญของ CP-Meiji 59.99% เผยการเข้าซื้อกิจการทั้ง 2
รายการนี้ เป็นไปตามแผนการขยายงานของบริษัทที่ต้องการเพิ่มฐานธุรกิจอาหาร หวังเพิ่มยอดขายในต่างประเทศ
นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหารบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทว่า บอร์ดได้มีมติอนุมัติให้ CPFInvestment Limited (CPFI) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยลงทุนในหุ้นสามัญของ Russia Baltic PorkInvest ASA (RBPI) ประกอบธุรกิจสุกรในเขต Kaliningkrad, Nizhny Novgorod, และPenza ประเทศรัสเซีย พร้อมอนุมัติให้ บริษัท ซี.พี.เมอร์แชนไดซิ่ง จำกัด (CPM) บริษัทย่อยเข้าร่วมลงทุนในบริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด (CP-Meiji) ซึ่งประกอบธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นมและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่ทำจากนม ภายใต้ตราสินค้า “เมจิ” และ “เมจิ-ไพเกน” ภายในไตรมาสที่ 3 ของปี 2556
“การเข้าซื้อกิจการทั้ง 2 รายการนี้ เป็นไปตามแผนการขยายงานของบริษัท ที่ต้องการเพิ่มฐานธุรกิจอาหาร โดยโอกาสทางตลาดของ CP-Meiji นั้นไม่เพียงแต่การจำหน่ายในประเทศไทย แต่ยังสามารถทำการส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ได้ด้วย จึงมองว่าการเติบโตของธุรกิจนี้ยังมีโอกาสอีกมาก ส่วนธุรกิจสุกรในประเทศรัสเซียนั้น เป็นส่วนหนึ่งของแผนการขยายงานในประเทศรัสเซีย จากการพูดคุยและศึกษาแล้วพบว่า ผู้บริหารของ RBPI มีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญ
ในการดำเนินธุรกิจสุกรในประเทศรัสเซีย คาดว่ายังมีแนวทางที่จะสามารถทำงานร่วมกันในการขยายธุรกิจในประเทศรัสเซีย ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ และปริมาณการผลิตในประเทศไม่เพียงพอต่อความต้องการบริโภค” นายอดิเรกกล่าว
สำหรับ CPFI ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ CPF จะเข้าซื้อเงินลงทุนในหุ้นสามัญของ RBPI ในสัดส่วนไม่เกิน 83% โดยมูลค่ารวมของรายการจะมีจำนวนไม่เกิน 76.8 ล้านยูโร หรือประมาณไม่เกิน 3,151ล้านบาท และเมื่อการเข้าทำรายการดังกล่าวเสร็จสมบูรณ์ RBPI และบริษัทย่อยจะเข้ามาเป็นบริษัทย่อยแห่งใหม่ของ CPF โดยในปี 2555 RBPI มียอดขาย 1,393ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 343 ล้านบาท (อัตราแลกเปลี่ยนที่ 5.2491 บาทต่อ 1 นอร์เวย์โครน)
ขณะที่ CPM ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ CPF ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 99.99 จะเข้าซื้อเงินลงทุนในหุ้นสามัญของ CP-Meiji จำนวน 299,997 หุ้น หรือคิดเป็น 59.99% ราคาหุ้นละ 4,000 บาท คิดเป็นเงินลงทุน 1,200 ล้านบาท และเมื่อทำรายการแล้วเสร็จ CP-Meiji จะมีสถานะเป็นกิจการที่ควบคุมร่วมกัน (Jointly-controlled Entity) โดยในปี 2555 CP-Meiji มียอดขาย 5,175 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 206 ล้านบาท
