xs
xsm
sm
md
lg

นายกสมาคม บล.คาดตลาดหุ้นครึ่งปีหลังแผ่ว แนะจับตาประกาศผลกำไร บจ.Q2

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ภัทธีรา” เผยตลาดทุนไทยปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก จากนโยบายผ่อนคลายทางการเงินของสหรัฐฯ หรือ QE แม้อัตราแลกเปลี่ยนจะช่วยพยุงภาคการส่งออก แต่ก็ยังนอนใจไม่ได้ เพราะแนวโน้มตลาดยังผันผวนต่อเนื่อง คาด SET INDEX ทั้งปีไม่น่าหลุด1,500 จุด ด้าน “โฆษิต” ปรับกลยุทธ์รุกสร้างนักลงทุนรายใหม่ แย้มเพิ่มเป้าให้ได้อีก 1 แสนบัญชีใน 2 ปี เตรียมสยายปีก ออฟชอร์เทรดดิ้งมากขึ้น

นางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีรภพ นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย กล่าวว่า สถานการณ์การลงทุนในครึ่งปีหลังนี้มีแน้วโน้มปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก จากนโยบายผ่อนคลายทางการเงินของสหรัฐฯ หรือ QE ที่ได้ประกาศออกมาก่อนนี้ว่าจะลดวงเงินกระตุ้นเศรษฐกิจลง และอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทยังอยู่ในสถานการณ์ที่จะต้องจับตาอย่างใกล้ชิด ถึงแม้ว่าจะอ่อนตัวลงบ้างแล้ว และมีผลดีต่อภาคการส่งออก แต่อย่างไรก็ตาม จากการที่ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่อย่างประเทศจีน ได้ประกาศลดอัตราเพดานดอกเบี้ยเงินกู้ลงเพื่อให้มีสภาพคล่องด้านการค้าในประเทศเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจจีนชะลอตัวลง แต่เป็นเพียงระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น โดยนักลงทุนต้องพิจารณาปัจจัยที่เกี่ยวเนื่องด้วยว่าจะมีผลกระทบต่อตลาดทุนในภูมิภาคโดยรวมมากน้อยแค่ไหน ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นนั้นจะส่งผลต่อตลาดทุนในภูมิภาคทั้งหมด

ขณะเดียวกัน สิ่งที่นักลงทุนควรพิจารณาจากผลกำไรประกอบการในไตรมาสที่ 2 ของบริษัทจดทะเบียนที่กำลังจะประกาศออกมาในเร็วๆ นี้ ซึ่งจะส่งผลต่อสภาพคล่องตลาดหุ้นโดยรวมทั้งหมด ซึ่งคาดว่าจะมีผลประกอบการกำไรที่ออกมาในเกณฑ์ที่ดี เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว ทั้งนี้ ตลาดหุ้นไทยในครึ่งปีหลังวอลุ่มการซื้อขายจากประมาณการเฉลี่ยคาดว่าจะไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาท เทียบกับปีที่แล้วที่อยู่ที่ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ แนวโน้มตลาดหุ้นในครึ่งปีหลังโดยขณะนี้นักลงทุนกำลังอยู่ในช่วงปรับฐาน คาดว่าดัชนี SET INDEX ทั้งปีน่าจะอยู่ในระดับ 1,500 จุด ซึ่งคาดว่าจะเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น โดยนักลงทุนควรเน้นการลงทุนในระยะยาว ซึ่งมีความเสี่ยงที่น้อยกว่า

ด้านนายโฆษิต บุญเรืองขาว กรรมการผู้จัดการ บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) หรือ MBKET กล่าวว่า จากพฤติกรรมของนักลงทุนในช่วงที่ผ่านมาพบว่า โดยเฉลี่ยจะมีนักลงทุนที่เปิดบัญชีใหม่ 100% แต่เทรดจริงๆ เพียง 50% เท่านั้น เมื่อระยะเวลาผ่านไป 1-2 ปี จำนวนผู้ที่เทรดจาก 50% นั้น จะเทรดลดลงเหลือประมาณโดยเฉลี่ยเพียง 30% ที่ทำการเทรดจริง ซึ่งทางบริษัทฯ ได้วางแผนกลยุทธ์ส่งเสริมนักลงทุนรายใหม่ให้มีความรู้ และเข้าใจในการลงทุนในตลาดหุ้นอย่างถูกวิธีมากขึ้น และสามารถเทรดการซื้อขายได้ทันที โดยผลตอบแทนที่ได้ไม่เฉพาะเพียงแค่ในดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารอย่างที่หลายคนเข้าใจ ซึ่งได้มีการจัดการแข่งขันจำลองการซื้อขายหลักทรัพย์เสมือนจริงสำหรับนักเรียนนักศึกษาโดยมีทุนการศึกษาเป็นรางวัลสำหรับผู้ที่ชนะการแข่งขัน

ทั้งนี้ ในปัจจุบันบริษัทฯ มีบัญชีลูกค้าเฉลี่ยกว่า 1 แสนราย โดยคาดว่าในระยะเวลา 2 ปีจะเพิ่มบัญชีลูกค้าขึ้นมาให้ได้อีกอย่างน้อย 1 เท่าตัว โดยเน้นลูกค้ากลุ่มใหม่ที่เทรดผ่านอินเทอร์เน็ตเป็นหลัก เพราะมีความแม่นยำ และรวดเร็วสามารถทำการซื้อขายได้ทุกที่ทุกเวลา และยังได้เพิ่มบริการซื้อขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ หรือออฟชอร์เทรดดิ้ง (Offshore Trading) โดยปัจจุบัน มีบัญชีที่ซื้อขายออฟชอร์เทรดดิ้ง ประมาณ 100 บัญชี ซึ่งนิยมซื้อขายหุ้นในตลาดหุ้นฮ่องกง และอเมริกาอย่างมาก โดยในอนาคตคาดว่าจะมีนักลงทุนออฟชอร์เทรดดิ้งเพิ่มจำนวนมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ยังต้องอิงกับสถานการณ์ภาวะตลาดหุ้นโดยรวมทั่วโลกด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น