“กิตติรัตน์” เผยการประชุม “เวิร์กชอป” วันนี้เน้นดูแลค่าครองชีพ และแก้ปัญหาราคาน้ำมันแพง คาด “จีดีพี” เริ่มหดตัว เตรียมเปิดแผนปลุก ศก.ครึ่งปีหลัง เร่งการใช้จ่ายภาครัฐ การลงทุนภาคเอกชน และการอุปโภคบริโภคภายในประเทศ ทดแทนการพึ่งพา “ส่งออก” เพื่อปรับสมดุล ศก. และขับเคลื่อนต่อไปได้
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงการประชุมเชิงปฏิบัติการ (เวิร์กชอป) ร่วมกับหน่วยงานทางเศรษฐกิจ ที่ทำเนียบรัฐบาล วันนี้ (12 ก.ค.) จะเป็นการหารือแนวทางในการดูแลค่าครองชีพของประชาชนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยไม่อยากให้มีการปรับขึ้นอย่างรุนแรง โดยเฉพาะราคาน้ำมัน ที่ขณะนี้ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นจากปัญหาความขัดแย้งประเทศผู้ผลิตน้ำมัน ถึงแม้ว่าจะเป็นเหตุการณ์ระยะสั้น แต่รัฐบาลจะดูแลอย่างใกล้ชิด
นายกิตติรัตน์ มองว่า กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงนั้น ยังคงมีความสามารถในการรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันในประเทศให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมได้ พร้อมกันนี้ ที่ประชุมฯ จะยังส่งเสริมการเพิ่มผลผลิต โดยเฉพาะในส่วนของทรัพยากรบุคคลให้มากกว่าการที่จะหามาตรการในการลดค่าครองชีพของประชาชน ด้วยการปรับลดค่าไฟ ค่าน้ำ หรือรถเมล์ และรถไฟฟรีที่มีอยู่แล้ว เพราะจะทำให้ภาคการผลิตของอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้น
นายกิตติรัตน์ ยอมรับว่า มีความเป็นไปได้ที่รัฐบาลจะมีการปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยในปีนี้ จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 4.5-5.5 เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกยังอยู่ในช่วงชะลอตัว หลังจากที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจเหลือร้อยละ 3.1 จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ร้อยละ 3.2 รวมถึงหลายหน่วยงานด้านเศรษฐกิจก็ได้มีการปรับลดประมาณการจีดีพีในปีนี้ลงไปก่อนหน้าแล้ว
“หลังจากนี้ รัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะทำงานให้หนักมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ภาพรวมของเศรษฐกิจภายในประเทศยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง”
ทั้งนี้ รัฐบาลจะดำเนินการเร่งการใช้จ่ายของภาครัฐ การลงทุนภาคเอกชน และการอุปโภคบริโภคภายในประเทศ ทดแทนการพึ่งพาการส่งออกเพื่อปรับสมดุลทางเศรษฐกิจให้เติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกับขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เดินหน้าต่อไป