ผลพวง ครม.ต่างตอบแทน “อัชพร” ข้ามห้วยจากเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา มานั่งประธานบอร์ด ก.ล.ต. แทน “ชัยเกษม นิติศิริ” ที่โยกไปเป็นรัฐมนตรี ทั้งที่กำลังร่วมทีมเตรียมยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองต่อโครงการแผนบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท และเพิ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นคณะกรรมการในบอร์ด กวทช.
นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบการแต่งตั้งให้นายอัชพร จารุจินดา เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เป็นประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ แทนนายชัยเกษม นิติศิริ อดีตอัยการสูงสุด ที่ลาออกไปเพื่อดำรงตำแหน่ง รมว.ยุติธรรม
โดยนายอัชพร มีประวัติการทำงาน เป็นกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ, กรรมการกฤษฎีกา, กรรมการในคณะกรรมการวิธีปฎิบัติราชการทางปกครอง, คณะกรรมการพัฒรนาระบบราชการเกี่ยวกับการตีความและวินิจฉัยปัญหากฎหมายในการบริหารราชการแผ่นดิน, กรรมการในคณะกรรมการกองทุนเพื่อฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน, กรรมการในคณะกรรมการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และรองเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา (นักบริหาร 10 บส.)
นอกจากนี้ เมื่อ 25 มิ.ย.2556 คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติแต่งตั้ง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพัฒนาวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีแห่งชาติ (บอร์ด กวทช.) ซึ่งนายอัชพร ก็มีชื่อเป็นคณะกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งในครั้งนี้ด้วย
ขณะเดียวกัน นายอัชพร ยังอยู่ในทีมงานภาครัฐบาลที่เตรียมยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองต่อโครงการแผนบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท และเคยให้ความเห็นในส่วนของ พ.ร.ก. กู้เงิน ว่า “กฎหมายนี้ให้รัฐบาลกู้เงินได้ ก็ไปกู้มา แต่จะเบิกจ่ายอย่างไร เป็นแนวทางปฏิบัติตามสัญญาซึ่งทำกันมาตลอด โดยรัฐบาลจะทำสัญญากับธนาคารของรัฐบาล ในสัญญาระบุว่า รัฐบาลจะขอกู้เงิน แต่ไม่หมายความว่าจะต้องกู้เงินทั้งหมดมากองไว้ เมื่อต้องการใช้เงินถึงจะเริ่มเบิกเงินออกมา และดอกเบี้ยเริ่มนับตั้งแต่เบิกเงิน ตอนนี้เป็นขั้นตอนของสัญญากู้เงินยังไม่ได้เสียดอกเบี้ย และขณะนี้ยังไม่มีการพูดคุยเรื่องการชี้แจงกับกลุ่มบริษัท 4 กลุ่มที่ผ่านการประมูล หลังมีคำสั่งศาลออกมา”
