ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ราคาหุ้นแบงก์กรุงศรีฯเพิ่มขึ้นกว่า 6% หลังมีข่าวแบงก์ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น มิตซูบิชิฯ จะเข้าเทกโอเวอร์ 51% คืบหน้า แต่แบงก์แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ยืนยันยังไม่ได้รับแจ้งจากจีอีผู้ถือหุ้นหลัก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวันนี้ (24 มิ.ย.) ช่วงเปิดการซื้อขายตลาดหุ้น 10.00 น. เป็นต้นมา การซื้อขายหุ้นธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) เป็นไปอย่างคึกคัก หลังจากมีกระแสข่าวว่า มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) ซึ่งเป็นธนาคารใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นเมื่อพิจารณาจากมูลค่าสินทรัพย์กำลังอยู่ในขั้นตอนคืบหน้าในการเจรจาเพื่อซื้อหุ้น 51% หรือมากกว่าของ ธ.กรุงศรีอยุธยา ซึ่งเป็นธนาคารใหญ่อันดับ 5 ของไทย ในข้อตกลงมูลค่า 4 แสนล้านเยน หรือ 4.1 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 127,100 ล้านบาท โดย ณ เวลา 10.20 น. ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นจากวันศุกร์ (21 มิ.ย.) 2 บาท มาอยู่ที่ระดับราคา 34.75 บาท หรือเพิ่มขึ้น 6.11%
อย่างไรก็ตาม ธนาคารกรุงศรีฯ ได้ชี้แจงต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ในช่วงก่อนเปิดตลาด ว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวการซื้อขายหุ้นของธนาคาร จนถึงขณะนี้ธนาคารไม่ได้รับการแจ้งจากกลุ่มจีอีซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นหลักของธนาคารเกี่ยวกับพัฒนาการในเรื่องนี้แต่อย่างใด ธนาคารขอยืนยันว่า หากมีข้อมูลดังกล่าวแจ้งมายังธนาคาร ธนาคารจะได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ทราบความคืบหน้าต่อไป
ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ธนาคารกรุงศรีฯ ตกเป็นข่าวมาเป็นระยะว่าได้รับความสนใจจะเข้าซื้อหุ้นจากธนาคารต่างชาติ โดยเฉพาะจากญี่ปุ่น ซึ่งหากดีลนี้สำเร็จจะถือเป็นการใช้วงเงินสูงสุดที่ธนาคารญี่ปุ่นเข้าซื้อกิจการในเอเชีย และจะถือเป็นการซื้อกิจการบริษัทต่างชาติที่ใช้วงเงินสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของธนาคารญี่ปุ่น หลังจากที่ MUFG เข้าซื้อหุ้น 21% ในมอร์แกน สแตนเลย์ ด้วยวงเงิน 9 แสนล้านเยน
MUFG ได้ทำการเจรจาเป็นเวลาหลายเดือนเพื่อซื้อหุ้นของ เจเนอรัล อิเลคทริค (GE) ที่ถือครองใน BAY จำนวน 25% แต่กฎระเบียบของทางการไทยที่ห้ามธนาคารต่างชาติถือหุ้นในธนาคารไทยมากกว่า 1 แห่ง ก็ได้กลายเป็นอุปสรรคต่อ MUFG เนื่องจากทางธนาคารมีการดำเนินงานอย่างกว้างขวางกับภาคเอกชนของญี่ปุ่นในประเทศไทย
ในแผนการล่าสุดที่มีการหารือกันกับฝ่ายต่างๆ นั้น MUFG จะทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (เทนเดอร์ ออฟเฟอร์) เพื่อซื้อหุ้น BAY อย่างน้อย 51% จาก GE และฝ่ายต่างๆ โดยจะผนวกการดำเนินงานในประเทศไทยของ MUFG เข้ากับ BAY
ทั้งนี้ หนังสือพิมพ์นิกเกอิรายงานในวันเสาร์ว่า MUFG กำลังอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายในการเจรจากับตระกูลรัตนรักษ์ และ GE โดยมีเป้าหมายที่จะทำการประกาศการซื้อกิจการอย่างเป็นทางการในต้นเดือนหน้า MUFG จะอาศัยความเชี่ยวชาญของ BAY ในการขยายการดำเนินงานในไทยเพื่อให้ครอบคลุมถึงการปล่อยกู้แก่บริษัทขนาดเล็ก และการให้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย
นายโนบูยูกิ ฮิราโนะ ประธานกรรมการของ MUFG กล่าวก่อนหน้านี้ ว่า ทางธนาคารกำลังมองหาโอกาสเพื่อเข้าซืิ้อกิจการของธนาคารเอเชียแห่งหนึ่งเพื่อให้เป็นศูนย์กลางของ MUFG ในภูมิภาค เหมือนกับที่ MUFG ประสบความสำเร็จในสหรัฐฯ กับธนาคารยูเนียนแบงก์ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในแคลิฟอร์เนีย ขณะทีี่บรรดาธนาคารญี่ปุ่นกำลังเน้นการทำธุรกิจนอกเหนือจากกลุ่มองค์กรขนาดใหญ่ (wholesale) เพื่อเข้าสู่ธุรกิจสินเชื่อรายย่อย (retail) ขนาดกลาง และขนาดย่อมในท้องถิ่น ในเดือนที่แล้ว MUFG บรรลุข้อตกลงในการซื้อหุ้น 40% ในธนาคาร BTPN ของอินโดนีเซีย ด้วยวงเงิน 1.5 พันล้านดอลลาร์
