ตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ ก้าวสู่ปีที่ 15 เผยสร้างสถิติสำคัญ ทั้งมูลค่ามาร์เกตแคปสูงสุดแตะ 2 แสนล้านบาท อีกทั้งสภาพคล่องเพิ่มขึ้นต่อเนื่องดันมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ย 3,000 ล้านบาทต่อวัน
นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ดำเนินงานครบรอบ 14 ปี และก้าวสู่ปีที่ 15 ในวันศุกร์ที่ 21 มิถุนายน 2556 นี้ ด้วยบทบาทสำคัญในฐานะแหล่งระดมทุน เพื่อเสริมสร้างศักยภาพ และขยายโอกาสทางธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางที่มีศักยภาพให้เติบโตแข็งแกร่ง เพื่อเป็นพื้นฐานสำคัญของเศรษฐกิจไทย โดยตลอด 14 ปีที่ผ่านมา mai ได้เป็นแหล่งระดมทุนของ บจ.แล้ว 103 บริษัท ด้วยมูลค่าระดมทุน 48,280 ล้านบาท สร้างมูลค่าตลาดเติบโตต่อเนื่องกว่า 2 แสนล้านบาท ซึ่งไม่นับรวม 13 บจ. ที่เติบโต และย้ายเข้าซื้อขายใน SET ที่มีมูลค่าตลาดรวมอีกประมาณ 70,000 ล้านบาท ทั้งนี้ บจ. ใน mai แสดงศักยภาพผ่านผลประกอบการทั้งยอดขายและกำไรที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดสภาพคล่องจากการลงทุนเติบโต ผลักดันดัชนี mai ปรับเพิ่มขึ้น โดยทำสถิติปิดสูงสุดที่ 510.44 จุด เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2556 ที่ผ่านมา ปัจจุบันมีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันประมาณ 3,000 ล้านบาท เทียบกับปีแรกที่มีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพียง 25 ล้านบาท
“ตลาดหลักทรัพย์ mai มีอัตราการเพิ่มของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization) ต่อเนื่องจาก 427 ล้านบาทในปีก่อตั้ง เป็นระดับแสนล้านในกลางปี 2555 และ ณ ปัจจุบัน มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดได้เพิ่มจากระดับแสนล้านเป็น 2 แสนล้านบาท เป็นผลมาจากการเข้าจดทะเบียนของบริษัทต่างๆ อย่างต่อเนื่องด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดขนาดใหญ่ขึ้น และอีกส่วนหนึ่งมาจากการเติบโตของบริษัทจดทะเบียนผ่านการระดมทุนเพิ่มเพื่อขยายกิจการ และใช้เครื่องมือทางการเงินเพื่อเพิ่มสภาพคล่องอย่างต่อเนื่อง” นายชนิตรกล่าว
สำหรับในปี 2556 นี้ ตลาดหลักทรัพย์ mai มีแนวโน้มจะทำสถิติมูลค่าระดมทุน และการใช้เครื่องมือทางการเงินสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยครึ่งปีแรกนี้มียอดระดมทุนถึง 13,719 ล้านบาท เกือบเท่ากับปี 2555 ตลอดทั้งปี และมีการใช้เครื่องมือทางการเงินถึง 37 เครื่องมือ มากกว่ายอดปีที่แล้วทั้งปีอีกด้วย ในขณะที่จะมีเม็ดเงินระดมทุนอีกจาก 13 บริษัทที่อยู่ระหว่างยื่นคำขอเข้าจดทะเบียน และจาก บจ. ที่จะรอเรียกชำระ รวมทั้ง บจ.ต่างๆ ก็ให้ความสนใจ และเลือกใช้เครื่องมือทางการเงินเพื่อสร้างศักยภาพของธุรกิจมากเช่นกัน โดยเครื่องมือทางการเงินที่ได้รับความนิยมสูงสุด ได้แก่ การจ่ายหุ้นปันผล (Stock Dividend) การออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (Warrant) และการเสนอขายหลักทรัพย์แก่กรรมการและพนักงาน (ESOP)
ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ยังมุ่งเน้นสนับสนุนให้ บจ.เติบโตด้วยคุณภาพอย่างยั่งยืน ด้วยการบริหารงานอย่างโปร่งใส มีการกำกับกิจการที่ดี และรับผิดชอบต่อสังคม รวมทั้งยังผนึกความร่วมมือกับผู้บริหาร บจ.สมาชิกสมาคมบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (maiA) เพื่อสร้างความสำเร็จแก่ทุก บจ.ใน mai