นักวิเคราะห์ระบุ 3 ปัจจัยหลัก ตัวเลข ศก.สหรัฐฯ ดี-บาทแข็ง-ต่างชาติกลับมาซื้อ หนุนดัชนีหุ้นไทยรีบาวนด์ เผยการปรับลงต่อเนื่อง 3 วัน 125 จุด เป็นสัญญาณทางเทคนิคที่ส่งผลให้ตลาดหุ้นฟื้นตัวในวันนี้
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้น่าจะรีบาวนด์กลับได้แรงมาจาก 3 ปัจจัยหลัก คือ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ เมื่อคืนออกมาดีกว่าที่คาด ทั้งจำนวนขอรับสวัสดิการว่างงานตลาดคาดจะทรงตัวแต่ก็ปรับตัวลดลง 12,000 ตำแหน่ง ตัวเลขยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ ดีขึ้นที่ตลาดคาดจะเพิ่มแค่ 0.4% แต่ออกมาเพิ่มขึ้น 0.6% ดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่เพิ่มขึ้น 0.1% ถือว่าเร่งตัวขึ้นดี
ประเด็นที่ 2 ค่าเงินบาทที่กลับมาแข็งค่าขึ้นเมื่อวานธนาคารแห่งประเทศไทยกลับมาแทรกแซงมีส่วนช่วยให้เงินทุนไหลออกชะลอลง และต่างชาติเริ่มพลิกกลับมาซื้อ 1,000 กว่าล้านบาท พร้อมมองว่าการที่ดัชนีปรับตัวลงมา 3 วันติดกัน 125 จุด วันนี้น่าจะมีการรีบาวนด์ ให้แนวต้าน 1,430-1,440 แนวรับ 1,405 และ 1,400 จุด
อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามถ้อยคำของประธานเฟดวันที่ 19 มิ.ย. ด้วยตลาดตอนนี้มองแค่รีบาวนด์ทางเทคนิค ส่วนทิศทางที่จะเป็นอย่างไรต่อไปต้องติดตามการประชุมเฟดสัปดาห์หน้า
ยอมรับว่า ตอนนั้นกลัว QE ชะลอ แต่ตอนนี้มาโฟกัสเรื่องข่าวดีเรื่องของเศรษฐกิจ ราคาหุ้นที่ปรับลงมาจากความกังวล QE ก็อาจจะรีบาวนด์ แต่โอกาสที่เฟดจะส่งสัญญาณรอบนี้ อย่างไรก็ตาม คงต้องจับตากลางสัปดาห์หน้า
นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 30.69/74 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดที่ระดับ 30.71/73 บาท/ดอลลาร์ และล่าสุด เงินบาทแข็งค่าลงมาอยู่ที่ระดับ 30.56/58 บาท/ดอลลาร์
“บาทแข็งค่าน่าจะมาจากนักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อ ต้องรอดูตลาดหุ้นวันนี้ว่านักลงทุนต่างชาติจะซื้อเยอะขึ้นอีกหรือไม่ ทั้งนี้ มองว่าเงินบาทวันนี้น่าจะมีทิศทางแข็งค่า มองกรอบการเคลื่อนไหว 30.50-30.70 บาท/ดอลลาร์ คงต้องจับตาทิศทางตลาดหุ้นไทย”
สำหรับภาพรวมตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้ ดัชนีเปิดในแดนบวก โดยเมื่อเวลา 10.10 น. ดัชนีปรับไปที่ระดับ 1,440.28 จุด เพิ่มขึ้น 37.01 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +2.64% มูลค่าการซื้อขาย 8,007.88 ล้านบาท