“รมว.คลัง” สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาข้อเท็จจริงกรณีรถหรูฉาวเลี่ยงภาษี ยันไม่ปล่อยให้ผ่านแล้วเงียบหายแน่ ลั่นต้องทำเรื่องนี้ให้ถูกต้อง และเป็นธรรม ขณะที่ “รมว.แรงงาน” ปัดโยงใยคดีรถหรู ยันแลมบอร์กินีสีขาวไม่ใช่ของลูกชาย เพราะเลขทะเบียนรถ 2617 เป็นเลขทะเบียนที่เพิ่งซื้อรถมาใหม่ ซึ่งเป็นเวลาหลายปีแล้ว แต่ยอมรับเคยใช้เลขทะเบียนดังกล่าวจริง ย้ำเป็นนักการเมืองมือสะอาด
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีรถหรูฉาวถูกไฟไหม้ ซึ่งผลสอบเบื้องต้นเป็นรถนำเข้าเลี่ยงภาษี โดยยอมรับว่า ตนเองได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการหาความกระจ่างโดยเร็ว และติดตามข้อเท็จจริงให้ได้ ซึ่งจะไม่มีการปล่อยผ่าน ต้องทำเรื่องนี้ให้ถูกต้อง และเป็นธรรม เนื่องจากรัฐบาลไม่มีนโยบายสนับสนุนให้กระทำการที่ไม่ถูกต้อง และสร้างความไม่เป็นธรรม
นายกิตติรัตน์ กล่าวด้วยว่า ในคดีดังกล่าวนี้มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นการนำเข้ารถยนต์ ในรูปแบบการเลี่ยงภาษี การนำเข้าชิ้นส่วนอุปกรณ์รถยนต์เข้ามาในประเทศ และนำมาประกอบเป็นคันรถในประเทศไทย หรือที่เรียกว่า “รถจดประกอบ” เพื่อเป็นการหลบเลี่ยงภาษี ซึ่งปัจจุบันมีการจัดเก็บในอัตรา 200%
โดยที่ผ่านมา ยืนยันว่ารัฐบาลได้มีการออกกฎหมายเพื่อควบคุมดูแลในเรื่องดังกล่าว เช่น กรมการขนส่งทางบกจะไม่รับจดทะเบียนให้แก่รถจดประกอบ และกระทรวงพาณิชย์ห้ามนำเข้าตัวถังรถยนต์เพื่อป้องกันการเลี่ยงภาษีอีกอย่างหนึ่ง
ด้านนายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รมว.แรงงาน กล่าวชี้แจงข่าวกรณีถูกพาดพิงคดีรถหรูแลมบอร์กินีสีขาวที่ถูกเผา ซึ่งมีชื่อลูกชายของตนเองเป็นเจ้าของด้วยนั้น โดยยอมรับว่า ตนเอง และลูกชายได้รับทราบเรื่องนี้แล้ว และทางตำรวจได้เชิญลูกชายไปสอบถามข้อเท็จจริง ซึ่งก็ได้ชี้แจงไปว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด เพราะเลขทะเบียนรถ 2617 นั้นเป็นเลขทะเบียนรถในช่วงที่ลูกชายตนเพิ่งซื้อรถมาใหม่ ซึ่งเป็นทะเบียนป้ายแดง ต่อมา ได้ขอเปลี่ยนเลขทะเบียนใหม่ ไม่ได้ใช้เลขทะเบียน 2617อีก
“ผมขอยืนยันว่าได้เปลี่ยนเลขทะเบียนรถมาหลายปีแล้ว ซึ่งการที่ตำรวจพบว่าเลขทะเบียนรถดังกล่าวเป็นของลูกชายตนนั้น เนื่องจากบริษัทเอเยนต์รถยังไม่ได้แทงเรื่องเปลี่ยนชื่อลูกชายตนออกจากการเป็นเจ้าของเลขทะเบียนรถ 2617 จึงทำให้ถูกเข้าใจผิดว่าลูกชายตนเป็นเจ้าของเลขทะเบียนเดิมของรถหรูคันที่ถูกเผา”
นายเผดิมชัย ยืนยันว่า ตนไม่สนับสนุนในเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว จึงขอยืนยันว่าลูกชายไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ เพราะตอนที่ผมกับลูกชายเมื่อรู้เรื่องนี้ก็ยังมานั่งหัวเราะกัน เพราะว่ามันเป็นเรื่องเก่าตั้งแต่ออกรถป้ายแดงใหม่ๆ และก็ได้เปลี่ยนเลขทะเบีบยนไปหลายปีแล้ว เมื่อตำรวจสอบถามมาก็ได้ให้ลูกชายไปชี้แจงแล้ว และทุกวันนี้รถลูกชายที่ซื้อมาก็ยังมาจอดที่กระทรวงแรงงาน และไม่ได้ใช้เลขทะเบียน 2617 อีกแล้ว คนในกระทรวงก็เห็นกันทั้งหมด