กคช.เร่งทำซีเคียวฯ หมื่นล้านแพกพอร์ตเช่าขาย รับที่ดิน รฟม. ปั๊มคอนโดฯ

กคช.นำสินทรัพย์เพื่อเช่าทำซีเคียวริไทเซชันมูลค่าหมื่นล้าน หลังตั้ง BBL-HSBC เป็นที่ปรึกษาการเงิน คาดได้ข้อสรุปชงเข้า ครม.ภายในปี 56 เดินหน้าลุยโครงการคอนโดฯ เกาะแนวรถไฟฟ้า นำร่อง 2 โครงการแรก แถวบางไผ่ สายสีม่วงบางใหญ่-บางปิ้ง สายสีเขียว สมุทรปราการ เล็งตั้งบริษัทลูกสานโครงการ ขณะที่บอร์ดไฟเขียวตั้ง “กฤษดา รักษากุล” ลูกหม้อ กคช.ขึ้นผู้ว่าฯ คนใหม่ แจง 2 ไตรมาสแรกของปีงบ 56 ทำกำไรกว่า 100 ล้าน

ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานกรรมการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) กล่าวว่า กคช.กำลังเร่งดำเนินการนำสินทรัพย์ประเภทเพื่อเช่าของการเคหะฯ มาจัดการในรูปแบบของการทำซีเคียวริไทเซชัน (securitization) หรือการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ โดยจะนำสินทรัพย์ประเภทเพื่อเช่าที่อยู่ทั่วประเทศ มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท มาดำเนินการ ซึ่งก่อนหน้านี้ กคช.ได้แต่งตั้งให้ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และธนาคาร HSBC เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ทำหน้าที่ศึกษาและวิเคราะห์สินทรัพย์ที่จะเข้าสู่กระบวนการซีเคียวริไทเซชัน ซึ่งขณะนี้ได้ข้อสรุปทั้งหมดแล้ว โดยอยู่ระหว่างเสนอต่อคณะกรรมการ (บอร์ด) กคช.อีกครั้ง คาดว่าจะเสนอและขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในปี 2556

ส่วนความคืบหน้าโครงการนำร่องพัฒนาคอนโดมิเนียมแนวรถไฟฟ้า ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง กคช.กับการรถไฟฟ้ามหานคร (ฟรม.) นั้น ล่าสุด กคช.ได้รับมอบพื้นที่จาก รฟม.ในการพัฒนาโครงการแล้ว ได้แก่ พื้นที่โครงการบางไผ่ บางใหญ่ อยู่ในแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง จำนวน 18 ไร่ และบางปิ้ง 14 ไร่ จ.สมุทรปราการ รองรับรถไฟฟ้าสายสีเขียว ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษา และออกแบบรายละเอียดโครงการ คาดว่าจะมีจำนวนหน่วยรวมไม่ต่ำกว่า 1,000 ยูนิต

โดยยุทธศาสตร์ของความร่วมมือระหว่าง กคช.และ รฟม.จะเป็นแผนระยะยาวในการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมแนวรถไฟฟ้า ผ่านการนำที่ดินในสถานีจอดรถ และศูนย์ซ่อมบำรุงมาใช้ และสร้างมูลค่าเพิ่ม ซึ่งจะมีการพัฒนาโครงการในแนวรถไฟฟ้าทั้ง 10 เส้นทาง และมีความเป็นไปได้ว่าจะพัฒนาโครงการในแนวรถไฟความเร็วสูงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย ทั้งนี้ รูปแบบคอนโดมิเนียมที่จะพัฒนาจะเป็นการปล่อยเช่าอายุสัญญา 30 ปี ต่อ 30 ปี

“การดำเนินงานในช่วงแรก กคช.จะดำเนินเอง หลังจากนั้น จะจัดตั้งบริษัทลูกเข้ามารับหน้าที่ในการดำเนินงาน และบริหารโครงการต่อจาก กคช. ส่วนรูปแบบของบริษัทลูกอาจจะเป็นการร่วมทุนกับภาคเอกชน หรือบริษัทลูกดำเนินการทั้งหมด หรือดำเนินการโดย กคช.ก็อาจเป็นไปได้ทั้งหมด”

ศ.ดร.สุชัชวีร์ กล่าวถึงการสรรหาผู้ว่าฯ กคช.คนใหม่ว่า บอร์ด กคช.ได้คัดเลือก นายกฤษดา รักษากุล รองผู้ว่าฯ กคช.ขึ้นมาดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯกคช.โดยอยู่ในขั้นตอนการเจรจาค่าตอบแทน ของคณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทน คาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้ และเสนอต่อ ครม.ได้ภายในเดือนกรกฎาคมศกนี้

สำหรับผลการดำเนินงานใน 2 ไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2556 (ต.ค.55-มี.ค.56) มีกำไรสุทธิแล้ว 100 ล้านบาทเศษ ลดลงเล็กน้อย เนื่องจากจำนวนบ้านเอื้ออาทรที่ต้องขาย และส่งมอบให้แก่ลูกค้ามีปริมาณลดลงเช่นกัน

ในส่วนของฐานะการเงิน ปัจจุบัน กคช.มีหนี้สินรวม 42,000 ล้านบาท จำนวนตัวเลขไม่มากเมื่อเปรียบเทียบกับสินทรัพย์ที่มีอยู่กว่า 60,000 ล้านบาท

ขณะที่โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุดที่ 1 เพื่อรองรับความต้องการกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและรายได้ปานกลาง ราคาเริ่มต้น 7.5 แสนบาทต่อหน่วย รวม 96 โครงการ จำนวน 50,205 หน่วยนั้น อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ซึ่งหากสภาพัฒน์อนุมัติโครงการแล้ว จะนำเสนอเรื่องต่อ ครม.ในทันที โดยจะสามารถดำเนินการได้ภายในปีนี้เช่นกัน