xs
xsm
sm
md
lg

แกรมมี่ทุ่ม 4 พันล. ผุดดิจิตอลทีวี ไม่รีบปล่อยหุ้นอื่นๆ (ชมคลิป)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“จี​เอ็ม​เอ็ม ​แกรมมี่” ทุ่มงบประมาณ 4 พันล้านบาท ประมูลดิจิตอลทีวีทั้ง 3 ช่อง เผยเตรียมเจรจากับบริษัทในต่างประเทศกว่า 20 แห่งเพื่อซื้อคอน​เทนต์ด้วยเงินลงทุน 1,000 ล้านบาท ยันบริษัทไม่จำเป็นต้องกู้เพิ่มเพราะยังมีกระแสเงินสดหมุนเวียน และเงินรายได้จากผลประกอบการอยู่ ส่วนขายหุ้นอื่นๆ ในมือขอรอโอกาส และการเจรจา
         
         
    นายครรชิต ควะชาติ ประธาน​เจ้าหน้าที่​บริหารสายธุรกิจทีวีดิจิตอล บมจ.จี​เอ็ม​เอ็ม ​แกรมมี่ (GRAMMY)​ กล่าวว่า สำหรับประกอบการใน​ไตรมาส 2/56 เชื่อว่าจะปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากธุรกิจหลัก ​ได้​แก่ ธุรกิจ​เพลง ธุรกิจทีวีดาว​เทียม ​ยังอยู่ในอัตราเติบ​โตที่ 5-10% ขณะที่ธุรกิจ​ใหม่คือ เพย์ทีวียังอยู่ในช่วงระหว่างคืนทุน โดยคาดว่ายังต้อง​ใช้​เวลาประมาณ 2-3 ปี

    ทั้งนี้ บริษัทคาดว่า​ในปีนี้ราย​ได้จะ​เติบ​โตตาม​เป้าหมาย 10% จากทุกประเภทธุรกิจของบริษัท แต่ในส่วนของกำ​ไรยังไม่สามารถสรุปได้​ เนื่องจากบริษัทฯ มีค่า​ใช้จ่าย​ใน​การลงทุนสูง โดยในปีนี้บริษัท​ได้​เตรียมงบลงทุน 5 พันล้านบาท ​เพื่อ​เข้าร่วมประมูลทีวีดิจิตอล 3 ช่องคือ ช่องเด็ก 140 ล้านบาท ช่องวาไรตี 380 ล้านบาท และช่อง HD 1,510 ล้านบาท ​โดยจะเริ่มยื่นซองประมูลได้ในช่วง​สิงหาคม หรือกันยายนนี้ ตามกำหนดการของ กสทช.

    อย่างไรก็ตาม ขณะนี้บริษัทยังไม่มีนโยบายที่จะเพิ่มทุนเพราะยังมีแหล่งเงินทุนจากธนาคารอยู่ และบริษัทฯ ยังมีเงินทุนจากกระ​แส​เงินสด 1,000 ล้านบาท ​และจากผลประกอบ​การ (EBITDA) 1,000 ล้านบาท ​อีกทั้งปัจจุบันที่บริษัทฯมีอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ที่ระดับ 1.9 ​เท่า หลังกู้​เงิน​เพื่อใช้ในการลงทุน คาดว่า D/E จะสูงขึ้น​เป็น​ไม่​เกิน 2 ​เท่า
   
   โดยเมื่อบริษัทฯ ประมูลช่องทีวีดิจิตอล​ได้​จะสามารถออกอากาศได้ทันทีที่ได้รับใบอนุญาต ​ขณะเดียวกัน บริษัท​ได้เจรจากับบริษัทในต่างประเทศกว่า 20 แห่ง เพื่อซื้อคอน​เทนต์ด้วยเงินลงทุน 1,000 ล้านบาท ด้วยการผูกสัญญา 3 ปี ซึ่งคอน​เทนต์นี้จะมีออกอากาศทั้งในส่วนของเพย์ทีวี และทีวีดิจิตอลที่บริษัทได้เตรียมประมูลไว้

    นายปีย์มน ปิ่นสกุล ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บมจ.จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ (GRAMMY) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินการไตรมาส 2/56 คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น แม้ว่าจะยังขาดทุนต่อเนื่องแต่จะลดลงจากไตรมาส 1/56 ที่ขาดทุนถึง 225.5 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทรับรู้ายได้ครึ่งหนึ่งจากธุรกิจภาพยนตร์เรื่อง “พี่มากพระโขนง” ที่ทำรายได้ 550 ล้านบาท และรับรู้รายได้จากการขายหุ้น บมจ.มติชน (MATI) 470 ล้านบาท ซึ่งเป็นการขายในราคาเท่าทุนที่ 11 บาท/หุ้น

    “การขายหุ้นใน MATI เป็นเพราะที่ผ่านมาบริษัทไม่ได้มีอำนาจการบริหาร แต่ถือหุ้นเพื่อลงทุน ถ้าราคาดีก็ไม่แปลกถ้าขายออกเพราะมีผลตอบแทนมากกว่าจึงขายออกไป ส่วนจะขายเงินลงทุนในบริษัทอื่นอีกหรือไม่ขึ้นอยู่กับเจรจา และโอกาส”
    

คลิกเพื่อชมคลิป :
กำลังโหลดความคิดเห็น