เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ ไตรมาสแรกปีนี้กำไร 368.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49.49% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะมีรายได้พุ่งแตะ 3,020.46 ล้านบาท เหตุดีมานด์ใช้ถ่านหินในตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้น รับรู้รายได้จากเหมืองที่อินโดฯ “ขจรพงศ์” เผยถ่านหินยังเป็นขวัญใจพลังงานทดแทนต้นทุนต่ำที่ยังมีความต้องการต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเทศจีน และอินเดีย ผนึกกับเหมืองถ่านหินของบริษัทที่ประเทศอินโดนีเซีย ทยอยรับรู้รายได้แล้ว มั่นใจปีนี้ยอดปริมาณจำหน่ายถ่านหินเติบโตได้ตามเป้าที่ 8 ล้านตันต่อปีแน่
นายขจรพงศ์ คำดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) หรือ EARTH เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาส 1/2556 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2556 โดยกำไรสุทธิอยู่ที่ 368.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 121.94 ล้านบาท คิดเป็น 49.49% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2555 ที่มีกำไรสุทธิ 246.39 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากกที่บริษัทมีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้นเป็น 3,020.46 ล้านบาท ในปี 2556 จากงวดเดียวกันของปีก่อน 1,128.67 ล้านบาทของปีที่ผ่านมา คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 59.66%
เนื่องจากบริษัทประสบความสำเร็จในการขยายตลาดทั้งใน และต่างประเทศ ตามความต้องการถ่านหินของตลาดโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการมีเหมืองถ่านหินเป็นของตัวเองทำให้มีขีดความสามารถในการจัดส่งถ่านหินให้ได้ตามเป้าหมายที่รับคำสั่งซื้อมาจากลูกค้า
ส่งผลให้บริษัทมียอดขายเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสาคัญ ส่งผลทำให้บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 615.63 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีอัตรากำไรขั้นต้น 422.50 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 45.71% ทั้งนี้ จากผลการดำเนินงานไตรมาสแรกที่เติบโตได้อย่างชัดเจน บริษัทเชื่อว่าทิศทางผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2556 จะยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องจากไตรมาสแรก
เนื่องจากมีคำสั่งซื้อถ่านหินเข้ามาอย่างสม่ำเสมอ จากความต้องการใช้ถ่านหินทั้งในประเทศ และต่างประเทศมีเพิ่มขึ้น ผนวกกับบริษัทสามารถขุดถ่านหินจากเหมืองถ่านหินของตนเองที่ประเทศอินโดนีเซีย ส่งขายได้แล้วตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ขณะที่แนวโน้มของธุรกิจพลังงานถ่านหินยังมีศักยภาพที่จะเติบโตได้อีกมาก เนื่องจากปัจจุบันผู้ประกอบการในหลายอุตสาหกรรมต้องการที่จะลดต้นทุนทางการผลิตลง ซึ่งถ่านหินจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
“ผลประกอบการไตรมาส 1/2556 ของ EARTH ถือว่าเติบโตตามที่คาดการณ์ไว้ เป็นผลมาจากบริษัทสามารถบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากการมีเหมืองเป็นของตัวเอง และมีคำสั่งซื้อถ่านหินเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเชื่อว่าในไตรมาสที่เหลือของปีนี้ผลการดำเนินงานของบริษัทจะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากไตรมาสแรกได้ และทำให้มั่นใจว่า ผลการดำเนินงานในปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมาย โดยคาดว่าปริมาณการจำหน่ายถ่านหินปีนี้น่าจะอยู่ที่ 8 ล้านตันต่อปีตามเป้าหมายที่วางไว้ได้”