“ยูเรกา ดีไซน์” อวดผลงานไตรมาสแรกปีนี้ 94.24 ล้านบาท หรือเติบโต 23.14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 76.53 ล้านบาท และฟันกำไรสุทธิ 14.71 ล้านบาท เติบโต 14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 12.92 ล้านบาท รับอานิสงส์อุตสาหกรรมยานยนต์ขยายตัวต่อเนื่อง หนุนออเดอร์เพิ่ม แถมสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างดีเยี่ยม พร้อมมั่นใจรายได้ปีนี้เข้าเป้า โตไม่ต่ำกว่า 30% เหตุทุกอย่างเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ ขณะที่ปีหน้าเตรียมบุกตลาดต่างประเทศเต็มสูบ ทั้งอินโดนีเซีย อินเดีย และเวียดนาม
นายนรากร ราชพลสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเรกา ดีไซน์ จำกัด (มหาชน) หรือ EUREKA เปิดเผยว่า ผลประกอบการในไตรมาส 1/2556 เติบโตอย่างต่อเนื่อง เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 1/2555 โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 94.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.71 ล้านบาท หรือเพิ่้มขึ้น 23.14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 76.53 ล้านบาท ขณะเดียวกัน มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 14.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.79 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราเติบโตประมาณ 14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 12.92 ล้านบาท แม้ว่าในรอบไตรมาสแรกของปีนี้มีรายจ่ายจำนวนมากในการขายหุ้น IPO ก็ตาม
“ผลประกอบการในไตรมาส 1/2556 เติบโตอย่างต่อเนื่อง จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากได้รับผลบวกจากอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยที่ขยายตัว ทำให้เราได้รับออเดอร์เพิ่มขึ้นจากผู้ประกอบรถยนต์ เช่น ฮอนด้า โตโยต้า มิตซูบิชิ เป็นต้น ขณะที่ออเดอร์จากต่างประเทศ ที่เวียดนาม และอินเดีย ก็มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งด้วยประสิทธิภาพการออกแบบ และคุณภาพเครื่องจักร การส่งมอบเครื่องจักรทันเวลา รวมถึงการบริการหลังการขายที่ดี ทำให้เราได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าเป็นอย่างดี ประกอบกับจากการที่ EUREKA ได้เตรียมความพร้อมในหลายๆ ด้าน ทั้งเรื่องบุคลากร และเทคโนโลยี ทำให้สามารถขยายตลาดใหม่ๆ ได้เพิ่มขึ้น และมีกำลังการผลิตมากขึ้นรองรับความต้องการของลูกค้าที่มีจำนวนมากได้ อีกทั้งสามารถบริหาจัดการด้านต้นทุนได้ดีขึ้น ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นขยับขึ้น ทำให้ผลประกอบการในไตรมาสแรกออกมาเป็นที่น่าพอใจ แต่อย่างไรก็ตาม หากไม่มีค่าใช้จ่าย IPO เชื่อว่าผลประกอบการในไตรมาสดังกล่าวจะดีกว่านี้อีก” นายนรากรกล่าว
โดยมั่นใจว่ารายได้รวมในปีนี้จะเติบโตตามเป้าหมาย โดยตั้งเป้าไว้ที่ประมาณ 400 ล้านบาท หรือขยายตัวไม่ต่ำกว่า 30% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 306.3 ล้านบาท พร้อมวางเป้าหมายธุรกิจในช่วง 3 ปีข้างหน้า (ปี 2558) จะเป็นบริษัทฯ ที่มียอดขายติดอันดับ 1 ใน 10 ของอาเซียน จากปัจจุบันที่บริษัทฯ ติดอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศไทย และคาดว่าสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศจะเพิ่มเป็น 30% จากปัจจุบันมีสัดส่วนเพียง 10% โดยในปีหน้าบริษัทฯ เตรียมเปิดสาขาที่ประเทศอินโดนีเซีย ประเทศอินเดีย และประเทศเวียดนาม หลังจากในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ได้เปิดสาขาที่จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อเตรียมความพร้อม และปูทางก่อนบุกต่างประเทศ
นายนรากร ราชพลสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเรกา ดีไซน์ จำกัด (มหาชน) หรือ EUREKA เปิดเผยว่า ผลประกอบการในไตรมาส 1/2556 เติบโตอย่างต่อเนื่อง เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 1/2555 โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 94.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.71 ล้านบาท หรือเพิ่้มขึ้น 23.14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 76.53 ล้านบาท ขณะเดียวกัน มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 14.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.79 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราเติบโตประมาณ 14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 12.92 ล้านบาท แม้ว่าในรอบไตรมาสแรกของปีนี้มีรายจ่ายจำนวนมากในการขายหุ้น IPO ก็ตาม
“ผลประกอบการในไตรมาส 1/2556 เติบโตอย่างต่อเนื่อง จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากได้รับผลบวกจากอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยที่ขยายตัว ทำให้เราได้รับออเดอร์เพิ่มขึ้นจากผู้ประกอบรถยนต์ เช่น ฮอนด้า โตโยต้า มิตซูบิชิ เป็นต้น ขณะที่ออเดอร์จากต่างประเทศ ที่เวียดนาม และอินเดีย ก็มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งด้วยประสิทธิภาพการออกแบบ และคุณภาพเครื่องจักร การส่งมอบเครื่องจักรทันเวลา รวมถึงการบริการหลังการขายที่ดี ทำให้เราได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าเป็นอย่างดี ประกอบกับจากการที่ EUREKA ได้เตรียมความพร้อมในหลายๆ ด้าน ทั้งเรื่องบุคลากร และเทคโนโลยี ทำให้สามารถขยายตลาดใหม่ๆ ได้เพิ่มขึ้น และมีกำลังการผลิตมากขึ้นรองรับความต้องการของลูกค้าที่มีจำนวนมากได้ อีกทั้งสามารถบริหาจัดการด้านต้นทุนได้ดีขึ้น ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นขยับขึ้น ทำให้ผลประกอบการในไตรมาสแรกออกมาเป็นที่น่าพอใจ แต่อย่างไรก็ตาม หากไม่มีค่าใช้จ่าย IPO เชื่อว่าผลประกอบการในไตรมาสดังกล่าวจะดีกว่านี้อีก” นายนรากรกล่าว
โดยมั่นใจว่ารายได้รวมในปีนี้จะเติบโตตามเป้าหมาย โดยตั้งเป้าไว้ที่ประมาณ 400 ล้านบาท หรือขยายตัวไม่ต่ำกว่า 30% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 306.3 ล้านบาท พร้อมวางเป้าหมายธุรกิจในช่วง 3 ปีข้างหน้า (ปี 2558) จะเป็นบริษัทฯ ที่มียอดขายติดอันดับ 1 ใน 10 ของอาเซียน จากปัจจุบันที่บริษัทฯ ติดอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศไทย และคาดว่าสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศจะเพิ่มเป็น 30% จากปัจจุบันมีสัดส่วนเพียง 10% โดยในปีหน้าบริษัทฯ เตรียมเปิดสาขาที่ประเทศอินโดนีเซีย ประเทศอินเดีย และประเทศเวียดนาม หลังจากในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ได้เปิดสาขาที่จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อเตรียมความพร้อม และปูทางก่อนบุกต่างประเทศ