AP แจงไตรมาสแรก 56 รายได้รวมลดลง 302 ล้านบาท ส่งผลกำไรสุทธิลด 43.6% เหตุการรับรู้รายได้จากโครงการคอนโดฯ ลดลงกว่า 10% จาก 93% ในไตรมาสแรกปี 55 เหลือ 29% ในไตรมาส 1 ปี 56 ด้าน “QH” รายได้รวม 3,531 เพิ่มขึ้น 1,095 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 45% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า หลังทยอยรับรู้รายได้โครงการอาคารสูงที่เปิดตัวในปี 55
นายพิเชษฐ วิภวศุภกร กรรมการผู้อำนวยการ ผู้มีอำนาจรายงานสารสนเทศ บริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ AP กล่าวว่า ผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาส 1 ปี 2556 บริษัท มีกำไรสุทธิ 222.7 ล้านบาท ลดลงจาก 394.8 ล้านบาท ในงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า หรือลดลง 43.6% โดยมีสาเหตุหลักมาจากรายได้รวมลดลงจาก 3,151 ล้านบาท ในไตรมาส 1 ปี 2555 มาเป็น 2,848 ล้านบาท หรือลดลง 9.6%ซึ่งรายได้ในไตรมาส 1 ปี 2556 มาจากโครงการคอนโดมิเนียม 29% และโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ 71%
ทั้งนี้ อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทลดลงจาก 35.6% ในไตรมาส 1 ปี 2555 มาอยู่ที่33.9% ในไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ เนื่องจากสัดส่วนการรับรู้รายได้จากโครงการคอนโดมิเนียมลดลงจาก 39% ของรายได้ในไตรมาส 1 ปี 2555 มาอยู่ที่ 29% ซึ่งโครงการคอนโดมิเนียมมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าโครงการบ้านเดี่ยว และทาวน์เฮาส์ จากสาเหตุดังกล่าวข้างต้น ทำให้บริษัทมีกำไรสุทธิลดลงเป็น 222.7 ล้านบาท ในไตรมาส 1 ปี 2556 หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิที่ 7.8%
นางสุวรรณา พุทธประสาท รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จากัด (มหาชน) หรือ QH กล่าวว่า ไตรมาส 1 ปี 2556 บริษัทและบริษัทย่อย มีรายได้จากการดำเนินงาน แยกตามประเภทธุรกิจเป็นธุรกิจขายอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้เช่าเพิ่มขึ้น โดยรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 3,035 เพิ่มขึ้น 912 ล้านบาท หรือ 43% จากไตรมาสแรกของปี 55 ซึ่งมีรายได้ 2,123 รายได้จากค่าเช่าและค่าบริการ 319 เพิ่มขึ้น 31ล้านบาท หรือ 11% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยมีรายได้รวม ณ ไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ อยู่ที่ 3,531 เพิ่มขึ้น 1,095 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 45% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปีที่แล้ว ซึ่งมีรายได้รวม 2,436 ล้านบาท
ทั้งนี้ รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ สำหรับไตรมาส 1 ของปี 2556 เพิ่มขึ้น จำนวน 912 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 43% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2555 เนื่องจากบริษัท และบริษัทย่อยมียอดโอนขายบ้านพร้อมที่ดินเพิ่มขึ้น จำนวน 630 ล้านบาท จากโครงการบ้านเปิดใหม่ จำนวน 14 โครงการซึ่งเปิดขายหลังไตรมาส 1 ของปี 2555 ขณะที่ไตรมาส 1 ของปี 2555 ธุรกิจขายบ้านพร้อมที่ดินของบริษัท และบริษัทย่อยมียอดรายได้ที่ต่ำ เพราะผลกระทบของมหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นในปลายไตรมาส 3 ของปี 2554 นอกจากนี้ บริษัท และบริษัทย่อยมียอดรายได้จากการขายหน่วยในอาคารชุดพักอาศัยเพิ่มขึ้น จำนวน 282 ล้านบาท เนื่องจากลูกค้ายังคงมีความต้องการซื้อหน่วยในอาคารชุดพักอาศัยของบริษัท และบริษัทย่อยอย่างต่อเนื่อง
โดยในไตรมาส 1 ของปี 2556 บริษัท และบริษัทย่อยได้เปิดขายโครงการบ้านใหม่ จำนวน 4 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 4,570 ล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียม 2 โครงการ มูลค่าประมาณ 5,550 ล้านบาท ขณะที่ปิดการขายโครงการบ้าน จำนวน 1 โครงการ