กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัทน้ำตาลขอนแก่นฯ แตกไลน์ธุรกิจอสังหาฯ เปิดตัว บ.ชูเคร แอสเสท หวังใช้พัฒนาที่ดินแลนด์แบงก์ของบริษัทในเครือที่มีอยู่ทั่วประเทศ ประเดิมคอนโดฯ หรู “ชูเคร เขาใหญ่” ปิดขายเฟสแรก 36 ยูนิต ภายใน 1 เดือนแล้ว พร้อมเดินหน้าเปิดเฟสสอง 46 ยูนิตต่อ
นายธนดล สุจิภิญโญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชูเคร แอสเสท จำกัด กล่าวว่า บริษัทจัดตั้งขึ้นจากกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ของ บริษัทน้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) หรือ KSL ที่ผลิตน้ำตาลเป็นธุรกิจหลัก และผลิตพลังงานทดแทนรายใหญ่ของไทย เช่น เอทานอล ปุ๋ยอินทรีย์ พลังงานไฟฟ้า นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ภายใต้ชื่อ บริษัท อ่อนนุชก่อสร้าง จำกัด เปิดดำเนินการเมื่อกว่า 20 ปีที่ผ่านมา โดยก่อสร้างอพาร์ตเมนต์ให้เช่าหลายแห่ง กระทั่งมาพัฒนาโรงแรม เช่น โรงแรมจอมเทียนการ์เด้นท์ รีสอร์ท พัทยา โรงแรมขนาด 200 ห้อง หลังจากนั้นพัฒนาเพิ่ม คือโรงแรม Splendid Resort จอมเทียน และนาเกลือ, AA Villa เป็นต้น
“เนื่องจากทางกลุ่มเล็งเห็นว่า แลนด์แบงก์ที่ผู้ถือหุ้น และครอบครัวซื้อสะสมไว้จำนวนหลายแปลง เช่น ที่ดินหลายร้อยไร่บริเวณ อ.แม่ริม จ.เชียงราย, เลย, พัทยา, นครราชสีมา และกาญจนบุรี เป็นต้น หากปล่อยทิ้งไว้ก็ไม่ก่อให้เกิด หรือสร้างมูลค่าเพิ่มได้ ดังนั้น จึงได้แตกไลน์บริษัท ชูเคร แอสเสท ขึ้นเพื่อพัฒนาที่ดินดังกล่าว โดยจะเลือกจากแปลงที่มีศักยภาพก่อน” นายธนดลกล่าว
สำหรับโครงการชูเคร เขาใหญ่ เป็นโครงการแรกของบริษัทฯ ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 7 ไร่ ภายในโครงการจะประกอบไปด้วย คอนโดฯ โลว์ไรซ์ พร้อมตกแต่ง จำนวน 2 อาคาร มูลค่า 360 ล้านบาท โดยอาคาร A จำนวน 36 ยูนิต มูลค่าโครงการ 190 ล้านบาท ปัจจุบันปิดการขายไปแล้วภายในเวลา 1 เดือนเท่านั้น ขณะนี้ได้ดำเนินการก่อสร้างแล้ว
“จากผลการตอบรับที่ดี ทางบริษัทฯ จึงได้เปิดตัวอาคารใหม่ อควา (Aqua) ในเดือนนี้ เป็นอาคารชุดพักอาศัยสูง 7 ชั้น จำนวน 46 ยูนิต บนพื้นที่ 1-0-81 ไร่ มูลค่า 170 ล้านบาท โดยภายในโครงการได้มีห้องพักอาศัย แบบ 1 ห้องนอน 45-57 ตร.ม., แบบ 2 ห้องนอน 91 ตร.ม., และแบบ 3 ห้องนอน 202 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นที่ 2.7-15 ล้านบาท”
นอกจากนี้ ภายในโครงการยังประกอบด้วย โรงแรมสเปนดิก แอท เขาใหญ่ จำนวน 40 ห้อง ใช้เงินลงทุน 120 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในปลายปีนี้ ทั้งนี้ การพัฒนาโครงการอสังหาฯ ของบริษัทจะเน้นการพัฒนาโรงแรมควบคู่ไปด้วย เพื่อจะสามารถให้โรงแรมบริหารที่อยู่อาศัยให้แก่ลูกค้า ทั้งการให้บริการทำความสะอาด อาหาร รวมถึงบริการอื่นๆ จากโรงแรม นอกจากนี้ ยังสามารถบริหารการเช่าให้หากลูกค้าต้องการ ทั้งยังเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ทางโครงการอีกด้วย
สำหรับแผนงานด้านการตลาดของบริษัทฯ โครงการมีงบประมาณการตลาดกว่า 20 ล้านบาท มุ่งเน้นกลุ่มที่ลูกค้าที่พักในกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียง รวมทั้งมีแผนงานขยายฐานลูกค้าชาวต่างชาติที่ต้องการหาที่พักสำหรับการ retirement ซึ่งเร็วๆ นี้ ทางโครงการจะเข้าร่วมงานบูทที่สยามพารากอน บริเวณ Fashion Hall ชั้น 1 บูท F12 ระหว่างวันที่ 17-26 พฤษภาคม และที่เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 1 บริเวณลิฟต์แก้ว ระหว่างวันที่ 12-16 มิถุนายนนี้ ราคาเริ่มต้นเพียง 2.7 ล้านบาท พร้อมรับข้อเสนอพิเศษสุดมอบให้ลูกค้า สำหรับ 9 ยูนิตแรก และสิทธิพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย
“ตลาดคอนโดฯ ในเขาใหญ่ แม้ว่าจะมีการแข่งขันค่อนข้างสูง เพราะมีผู้ประกอบการหลายรายเข้ามาพัฒนาโครงการจำนวนมาก แต่การพัฒนาด้วยรูปแบบที่แตกต่าง และมีบริการหลังการขายที่ดีจะสร้างมูลค่าเพิ่มในอนาคต” นายธนดล กล่าว
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังมีแผนจะนำที่ดินใน จ.เชียงราย มาพัฒนาเช่นกัน เนื่องจากมีชาวต่างชาติ เช่น ชาวนอร์เวย์ เข้ามาพักอาศัยจำนวนมาก จากก่อนหน้านี้นิยมอาศัยในจ.เชียงใหม่ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ภายใน 3 ปี รับกับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)
นอกจากนี้ ทางกลุ่มยังมีแผนที่จะทุบโรงแรมบางกอก บูทิค ย่านถนนอโศก จำนวน 50 ห้องทิ้ง เพื่อพัฒนาอาคารสำนักงานขนาด 32 ชั้น ภายหลังจากซื้อที่ดินได้เพิ่มอีก โดยคาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 400 ล้านบาท อีกทั้งยังมีแผนที่จะทุบอพาร์ตเมนต์ให้เช่าของบริษัทตามซอยสุขุมวิท เพื่อพัฒนาคอนโดมิเนียม โดยขณะนี่อยู่ระหว่างวางแผนการลงทุน