สพฐ.เตรียมปรับแก้ร่าง TOR แท็บเล็ตอีกหน หลังเสียงประชาพิจารณ์ยังกังวลเรื่องคุณภาพของเครื่องที่ตอบสนองกับระบบปฏิบัติการ และการให้บริการหลังการขาย
วันนี้ (29 เม.ย.) นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบาย 1 คอมพิวเตอร์แท็บเล็ตพกพาต่อ 1 นักเรียน ที่มีนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นประธานเมื่อเร็วๆ นี้ ได้พิจารณาร่าง TOR ในการจัดซื้อแท็บเล็ต ปีการศึกษา 2556 แจกนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 1 และมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ได้ สพฐ.ได้นำขึ้นเว็บไซต์เพื่อทำการประชาพิจารณ์ฟังความเห็นและข้อทักท้วงก่อนดำเนินการจัดซื้อแท็บเล็ตต่อไป ซึ่งพบว่ามีข้อเสนอ 2 ประเด็นหลัก ได้แก่ ประเด็นแรก คุณภาพของเครื่องแท็บเล็ต ซึ่งนอกเหนือจากสเปกของเครื่อง ความเร็ว ความจุ ความจำที่เหมาะสมต่อการใช้งานแล้ว ได้มีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับพัฒนาระบบซอฟต์แวร์ และระบบปฏิบัติการว่าเวลานี้เราใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ซึ่งเป็นระบบเปิดอยู่แล้ว แต่เพราะขณะนี้การพัฒนาแอพพลิชันและรวมถึงระบบปฏิบัติการแตกต่างกันไป เพราะฉะนั้นต้องมั่นใจเครื่องแท็บเล็ตที่จะซื้อนั้นรองรับกับการทำงานได้ จึงเสนอว่าควรจะพิจารณาซื้อเครื่องที่มีการรับรองจากบริษัท กูเกิล ซึ่งเป็นผู้พัฒนาระบบแอนดรอยด์ เพื่อให้เกิดความมั่นใจได้ว่าเครื่องแท็บเล็ตที่ซื้อมาจะทำงานกับระบบแอนดรอยด์ได้
ประเด็นต่อมา เรื่องบริการหลังการขาย ซึ่งบริษัทที่ชนะการประกวดราคานั้นจะต้องมีศูนย์บริการหลังการขาย 2 ประเภท คือ ศูนย์รับส่งกรณีเครื่องและอุปกรณ์แท็บเล็ตมีปัญหาที่ต้องตั้งอยู่ในทุกจังหวัด และศูนย์ซ่อมที่ควรมีให้บริการอยู่ในแต่ละโซน ซึ่งในประเด็นศูนย์ซ่อมนั้นมีข้อเสนอว่าควรจะได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO9001 ด้วยหรือไม่ เพื่อที่ให้เกิดความมั่นใจในคุณภาพการให้บริการ แต่ขณะเดียวกันมีบางส่วนให้ความเห็นเรื่องนี้ว่าหากจะให้ทุกศูนย์ต้องมีมาตรฐานดังกล่าวคงไม่สามารถดำเนินการได้ทันเพราะต้องใช้เวลาเป็นปี จึงเสนอว่าน่าจะใช้มาตรฐานบางข้อของ ISO9001 มาเป็นข้อกำหนดในตัวชี้วัดมาตรฐานของศูนย์ อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมได้มอบให้คณะกรรมการ TOR นำเรื่องดังกล่าวไปศึกษารายละเอียดและนำมาเสนออีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากการประมูลจัดซื้อแท็บเล็ตครั้งนี้ต้องการเปิดกว้างให้แก่บริษัททั้งในและต่างประเทศได้เข้ามาร่วมแข่งขันได้อย่างเต็มที่
วันนี้ (29 เม.ย.) นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบาย 1 คอมพิวเตอร์แท็บเล็ตพกพาต่อ 1 นักเรียน ที่มีนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นประธานเมื่อเร็วๆ นี้ ได้พิจารณาร่าง TOR ในการจัดซื้อแท็บเล็ต ปีการศึกษา 2556 แจกนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 1 และมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ได้ สพฐ.ได้นำขึ้นเว็บไซต์เพื่อทำการประชาพิจารณ์ฟังความเห็นและข้อทักท้วงก่อนดำเนินการจัดซื้อแท็บเล็ตต่อไป ซึ่งพบว่ามีข้อเสนอ 2 ประเด็นหลัก ได้แก่ ประเด็นแรก คุณภาพของเครื่องแท็บเล็ต ซึ่งนอกเหนือจากสเปกของเครื่อง ความเร็ว ความจุ ความจำที่เหมาะสมต่อการใช้งานแล้ว ได้มีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับพัฒนาระบบซอฟต์แวร์ และระบบปฏิบัติการว่าเวลานี้เราใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ซึ่งเป็นระบบเปิดอยู่แล้ว แต่เพราะขณะนี้การพัฒนาแอพพลิชันและรวมถึงระบบปฏิบัติการแตกต่างกันไป เพราะฉะนั้นต้องมั่นใจเครื่องแท็บเล็ตที่จะซื้อนั้นรองรับกับการทำงานได้ จึงเสนอว่าควรจะพิจารณาซื้อเครื่องที่มีการรับรองจากบริษัท กูเกิล ซึ่งเป็นผู้พัฒนาระบบแอนดรอยด์ เพื่อให้เกิดความมั่นใจได้ว่าเครื่องแท็บเล็ตที่ซื้อมาจะทำงานกับระบบแอนดรอยด์ได้
ประเด็นต่อมา เรื่องบริการหลังการขาย ซึ่งบริษัทที่ชนะการประกวดราคานั้นจะต้องมีศูนย์บริการหลังการขาย 2 ประเภท คือ ศูนย์รับส่งกรณีเครื่องและอุปกรณ์แท็บเล็ตมีปัญหาที่ต้องตั้งอยู่ในทุกจังหวัด และศูนย์ซ่อมที่ควรมีให้บริการอยู่ในแต่ละโซน ซึ่งในประเด็นศูนย์ซ่อมนั้นมีข้อเสนอว่าควรจะได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO9001 ด้วยหรือไม่ เพื่อที่ให้เกิดความมั่นใจในคุณภาพการให้บริการ แต่ขณะเดียวกันมีบางส่วนให้ความเห็นเรื่องนี้ว่าหากจะให้ทุกศูนย์ต้องมีมาตรฐานดังกล่าวคงไม่สามารถดำเนินการได้ทันเพราะต้องใช้เวลาเป็นปี จึงเสนอว่าน่าจะใช้มาตรฐานบางข้อของ ISO9001 มาเป็นข้อกำหนดในตัวชี้วัดมาตรฐานของศูนย์ อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมได้มอบให้คณะกรรมการ TOR นำเรื่องดังกล่าวไปศึกษารายละเอียดและนำมาเสนออีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากการประมูลจัดซื้อแท็บเล็ตครั้งนี้ต้องการเปิดกว้างให้แก่บริษัททั้งในและต่างประเทศได้เข้ามาร่วมแข่งขันได้อย่างเต็มที่
