“หม่อมอุ๋ย” มองปัญหาบาทแข็งเริ่มคลี่คลาย ค้านลด ดบ. ชะลอเงินไหลเข้า

“ปรีดิยาธร” ชี้ค่าเงินบาทในปัจจุบันถือว่าเงินบาทอยู่ระดับน่าพอใจ ค้านมาตรการลดดอกเบี้ยเพราะไม่ช่วยชะลอเงินไหลเข้า แต่ยอมรับแบงก์ชาติดูแลค่าบาทช้าบางจังหวะ เหมือนกับสมัยที่ตัวเองเป็นผู้ว่าฯ ธปท. ปี 2549 พร้อมระบุความเคลื่อนไหวค่าเงินบาทช่วง 2-3 ปีนี้ อยู่ในระดับเดียวกับภูมิภาค

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในการปาฐกถาพิเศษให้สมาชิกสมาคมธนาคารไทย และภาคเอกชนรับฟังสถานการณ์ค่าเงินบาทในปัจจุบัน และแนวโน้ม

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวว่า ได้อธิบายภาพรวมถึงสถานการณ์ค่าเงินบาท เพื่อไม่ให้ผู้ประกอบการตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมองว่า ปัจจุบัน ธปท.ถือว่าดูแลเงินบาทได้ดี เห็นได้จากเงินบาทอ่อนค่าลง ซึ่งระดับปัจจุบันถือว่าเป็นระดับที่เหมาะสมและสบายใจ ส่วนการเรียกร้องให้ลดดอกเบี้ยนโยบายนั้น เห็นว่าการลดดอกเบี้ยไม่ช่วยชะลอเงินทุนไหลเข้า โดยค่าเงินบาทเช้าวันนี้อยู่ที่ 29.55 บาทต่อดอลลาร์

ยอมรับว่าที่ผ่านมา ธปท.เข้าไปดูแลค่าเงินบาทช้าเกินไปในบางจังหวะ เหมือนสมัยที่ตัวเองเป็นผู้ว่าฯ ธปท. ปี 2549 และยุคนางธาริษา วัฒนเกส อดีตผู้ว่าฯ ธปท. เมื่อปี 2553 และล่าสุด เดือน ม.ค.2556 ที่ นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธปท. ทำได้ช้าทำให้เงินบาทแข็งค่าแตะระดับ 28 บาทต่อดอลลาร์

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ยังบอกถึงกรณีที่มีข่าวว่าผู้ว่าฯ ธปท.ได้หารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในต่างประเทศ และมีข้อสรุปร่วมกันถึงมาตรการดูแลค่าเงินบาทนั้นถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี เพราะการดูแลอัตราแลกเปลี่ยนทั้งสองหน่วยงานต้องร่วมมือกัน

ทั้งนี้ ค่าเงินบาทตั้งแต่ปี 2554 จนถึงปัจจุบัน เคลื่อนไหวแข็งค่าขึ้นประมาณ 6.5% ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่ใกล้เคียงภูมิภาค เช่น มาเลเซีย แข็งค่าเกือบ 6% และสิงคโปร์ 5%

อย่างไรก็ตาม วันพรุ่งนี้ (8 พ.ค.) นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานสภาหอการค้าฯ พร้อมคณะกรรมการจะเข้าพบกับผู้ว่าการ ธปท. เพื่อหารือถึงสถานการณ์ค่าเงินบาท และขอคำแนะนำในการปรับตัวของผู้ประกอบการ