หวั่นการเมืองกดดันหุ้นไทยสัปดาห์หน้าเคลื่อนไหวแกว่งตัวในแดนลบ

โบรกฯ คาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้าเคลื่อนไหวแกว่งตัวในแดนลบ ระบุนักลงทุนเริ่มกังวลปัจจัยการเมือง แนะทยอยขายทำกำไร และลดความเสี่ยง หลังดัชนีไม่ผ่าน 1,600 จุด

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้า คาดว่าดัชนีจะแกว่งตัวในกรอบแคบ และมีโอกาสปรับลดลงได้ เนื่องจากปัญหาการเมืองในประเทศที่ยังคงเป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้นไทย ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามคือการยื่น พ.ร.บ. กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท เข้าสู่สภาในช่วงปลายเดือนนี้

ส่วนปัจจัยต่างประเทศที่ต้องติดตาม คือ การรายงานตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนี ในเดือนมีนาคม และการประกาศตัวเลขการว่างงานของสเปน ในเดือนเมษายน ในวันที่ 6 พฤษภาคม รวมถึงการประชุมกลุ่มประเทศ G7 ในวันที่ 10 พฤษภาคมนี้

ทั้งนี้ คาดว่าดัชนีน่าจะแกว่งตัวลง แต่ไม่หลุดแนวรับ 1,570-1,575 จุด เนื่องจากปัญหาการเมืองต่างๆ ยังคงเป็นปัจจัยกดดัน และนักลงทุนยังกังวลอยู่ รวมถึง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ที่จะยื่นเข้าสภาในช่วงปลายเดือนนี้ด้วย โดยปัจจัยที่ต้องติดตามคือ ตัวเลขเศรษฐกิจของต่างประเทศ ทั้งสหรัฐฯ เยอรมนี สเปน และการประชุม G7

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะนำนักลงทุนควรทยอยขายหากดัชนีปรับขึ้นไปแตะระดับ 1,600 จุด และควรซื้อเมื่ออ่อนตัว โดยเลือกหุ้นที่ผลประกอบการในไตรมาส 1/2556 จะออกมาดี เช่น DELTA และ SNC ที่จะประกาศผลประกอบการในช่วงสัปดาห์หน้า โดยประเมินแนวรับแรกไว้ที่ 1,575 จุด แนวรับถัดไปไว้ที่ 1,570 จุด ประเมินแนวต้านไว้ที่ 1,600 จุด

ขณะที่ บล.กสิกรไทย และศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองดัชนีตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้า (7-10 พ.ค.) ว่า ดัชนีอาจเผชิญกับความผันผวน และมีโอกาสปรับตัวลง โดยปัจจัยสำคัญที่น่าติดตามคงได้แก่ การรายงานตัวเลขการส่งออกของจีน เครื่องชี้ภาคการผลิตในยูโรโซน รวมทั้งตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ เช่น ยอดขอสินเชื่อที่อยู่อาศัย ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด คาดว่า ดัชนีจะมีแนวรับที่ 1,567 และ 1,561 ขณะที่แนวต้านคาดว่าจะอยู่ที่ 1,602 และ 1,638 ตามลำดับ

ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับลดลงโดยมีแรงขายทำกำไร หลังข้อมูลเศรษฐกิจในยูโรโซน และจีนออกมาอ่อนแอ ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,578.95 จุด ลดลง 0.25% จากสัปดาห์ก่อน ด้านมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลง 15.67% จากสัปดาห์ก่อน มาอยู่ที่ 50,635.06 ล้านบาท โดยนักลงทุนรายย่อย และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ ขณะที่นักลงทุนสถาบัน และนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 500.92 จุด เพิ่มขึ้น 1.21% จากสัปดาห์ก่อน

ระหว่างสัปดาห์ตลาดหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้น โดยมีแรงซื้อเก็งกำไรท่ามกลางการคาดการณ์ว่ามาตรการดูแลค่าเงินบาทของธนาคารแห่งประเทศไทย ( ธปท.) จะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้น ก่อนมีแรงขายทำกำไรในช่วงปลายสัปดาห์ หลังดัชนีไม่สามารถผ่านระดับ 1,600 รวมทั้งแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจในยูโรโซน และจีนที่อ่อนแอ