กนง.เห็นชอบแนวทางบริหารจัดการอัตราแลกเปลี่ยน ชี้ต้นเหตุบาทแข็งเกิดจากปัจจัยพื้นฐาน ศก.ไทย ทำให้นักลงทุนต่างประเทศมีความเชื่อมั่น ถือเป็นโอกาสที่เอื้อให้เอกชนสามารถลงทุนเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต พร้อมยอมรับการปรับตัวอย่างต่อเนื่องของผู้ประกอบการได้ช่วยลดทอนผลกระทบได้ในระดับหนึ่ง
เมื่อวันที่ 30 เม.ย. คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีการประชุมเพื่อรับฟังการรายงานภาวะเศรษฐกิจ ประจำเดือนจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และร่วมหารือถึงสถานการณ์อัตราแลกเปลี่ยน โดยได้เห็นชอบแนวทางบริหารจัดการอัตราแลกเปลี่ยน
ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ มีความห่วงใยต่อความผันผวน และการแข็งค่าอย่างรวดเร็วของเงินบาทในระยะที่ผ่านมา ซึ่งบางช่วงอาจไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของประเทศ คณะกรรมการฯ จึงเห็นพ้องถึงความจำเป็นในการดำเนินนโยบายที่เหมาะสมต่อสถานการณ์ ภายใต้กรอบการบริหารจัดการอัตราแลกเปลี่ยนที่ได้วางไว้แล้ว รวมถึงการผสมผสานมาตรการ และการประสานงานอย่างใกล้ชิดกับกระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
รายงานข่าวระบุว่า คณะกรรมการฯ ได้ติดตามสถานการณ์การแข็งค่าของเงินบาทอย่างใกล้ชิด ตลอดจนได้ประเมินผลกระทบทั้งด้านบวก และด้านลบต่อเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยคณะกรรมการฯ ประเมินว่า การแข็งค่าของเงินบาทในช่วงที่ผ่านมา มีสาเหตุสำคัญจากปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจไทย ทำให้นักลงทุนต่างประเทศมีความเชื่อมั่น ซึ่งการแข็งค่าของเงินบาทก็เป็นโอกาสที่เอื้อให้เอกชนสามารถลงทุนเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต
สำหรับในแง่ลบ การแข็งค่าของเงินบาทได้ส่งผลกระทบต่อผู้ส่งออก โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลาง และขนาดเล็ก และผู้ส่งออกที่ต้องพึ่งพาวัตถุดิบในประเทศ สินค้าเกษตร และแรงงานในสัดส่วนที่สูง
อย่างไรก็ตาม การปรับตัวอย่างต่อเนื่องของผู้ประกอบการได้ช่วยลดทอนผลกระทบได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งคณะกรรมการฯ ประเมินว่า แม้การแข็งค่าของเงินบาทจะมีผลกระทบ แต่เศรษฐกิจในภาพรวมยังขยายตัวได้สอดคล้องกับการประเมินของหน่วยงานอื่นๆ