ส.อ.ท.พอใจแนวทาง “แบงก์ชาติ” แก้บาทแข็ง โดยปรับท่าทีหันมาใช้การผสมผสานระหว่างดูแลอัตราแลกเปลี่ยน ควบคู่คุมเงินเฟ้อในระดับเหมาะสม ยันหากค่าเงินผันผวนอีกจะเข้าพบผู้ว่าฯ แบงก์ชาติทันที ไม่รอประชุม กนง.
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวภายหลังเข้าหารือกับนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อยื่นข้อเสนอในการดูแลปัญหาค่าเงินบาทว่า เท่าที่ได้รับการชี้แจงข้อมูลจาก ธปท. ภาคเอกชนมีความพอใจในแนวทางการแก้ไขปัญหาแบบผสมผสานระหว่างการดูแลอัตราแลกเปลี่ยน ดูแลอัตราดอกเบี้ย และเงินทุนไหลเข้า รวมทั้งอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมมากขึ้น จากเดิมที่จะดูแค่ในเรื่องอัตราเงินเฟ้อเป็นหลัก เพราะ ธปท. ยอมรับว่าขณะนี้ค่าเงินบาทแข็งค่าสูงสุดในภูมิภาค ซึ่งมาตรการต่างๆ ที่ ส.อ.ท.เสนอต่อ ธปท.ในครั้งนี้จะนำไปพิจารณาร่วมกับแนวทางอื่นด้วย
ทั้งนี้ หากค่าเงินกลับมาผันผวนอีกครั้ง สอท.จะเดินทางเข้าพบกับผู้ว่าการ ธปท.ทันที โดยไม่รอให้ถึงการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 29 พฤษภาคม 2556
นายพยุงศักดิ์กล่าวด้วยว่า จากปัญหาค่าเงินบาทแข็ง หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงการคลัง และ ธปท. ไม่มีมาตรการออกมาลดผลกระทบ อาจส่งผลให้การส่งออกของไทยในปีนี้ ขยายตัวเพียง 4.92% เท่านั้น
สำหรับ 5 ข้อเสนอที่ ส.อ.ท.ยื่นให้ ธปท.พิจารณา ประกอบด้วย 1. ให้ ธปท.ใช้มาตรการบริหารจัดการค่าเงินบาทในภาวะวิกฤต 2. ให้ ธปท.ปรับเปลี่ยนนโยบายจากการดูแลเงินเฟ้อมาดูแลอัตราแลกเปลี่ยนแทน 3. ให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับลดอัตราดอกเบี้นโยบายรวดเดียว 1% แทนที่จะทยอยปรับลดครั้งละ 0.25%
4.ให้มีมาตรการดูแลการเคลื่อนย้ายเงินทุนต่างประเทศ โดยเฉพาะเงินทุนระยะสั้น ให้ห้ามนำเงินออกนอกประเทศเป็นเวลา 3 เดือน หากสถานการณ์ยังไม่คลี่คลายให้เพิ่มเวลาเป็น 6 เดือน และ 5. ให้ปรับนโยบายการออกพันธบัตร