เดินหน้าสู่ 1,600 จุด
ตลาดหุ้นสัปดาห์ที่ผ่านมากลับสู่บรรยกาศการซื้อขายที่คึกคัก ดัชนีไต่ระดับขึ้นต่อเนื่อง และมีโอกาสที่ขึ้นไปแตะระดับสูงสุดเดิมที่ 1,600 จุด เพราะแม้จะไมมีข่าวดีกระตุ้น แต่ก็ไม่มีข่าวร้ายรบกวน นอกจากต้องจับตามาตรการสักดกั้นค่าเงินบาทที่แข็ง ซึ่งอาจทำให้ตลาดหุ้นเกิดความผันผวนได้เท่านั้น
ดัชนีเมื่อวันศุกร์ปิดที่ 1,582.93 จุด เพิ่มขึ้น 8.68 จุด มูลค่าซื้อขาย 54,546 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 2,747 ล้านบาท
ความเคลื่อนไหวของต่างชาติไม่อาจจับทืศทางได้ เพราะช่วงกลางสัปดาห์เทขายหนัก ตามกระแสค่าเงินบาทที่อ่อนตัว แต่วันศุกร์กลับมาซื้อ ทำให้ไม่สามารถประเมินกลยุทธ์ของต่างชาติได้ ซึ่งต้องรอดูมาตรการสกัดค่าเงินบาท เพราะจะเป็นตัวกำหนดว่าต่างชาติจะสู้หรือถอย
ส่วนหุ้นที่มีความเคลื่อนไหวหวือหวารอบสัปดาห์ที่ผ่านมาคือ ซีพีออลล์ โดยหลังมีข่าวซื้อหุ้นสยามแม็คโครแล้วราคาก็ทรุดหนัก โดยคาดว่าต่างชาติถล่มขาย แต่ก็มีแรงซื้อจากในประเทศเข้าไปยันจนช่วงปลายสัปดาห์ฟื้นตัวขึ้นมา ทั้งที่ยังไม่อาจประเมินแนวโน้มผลดำเนินงานของซีพีออลล์ได้ แต่นัลงทุนรายย่อยที่เห็นว่าราคาปรับตัวลงมาลึกจึงแห่เข้าไปเก็งกำไร ทั้งทีซีพีออลล์จะต้องรอประเมินผลดำเนินงานอีกระยะหนึ่ง
สำหรับหุ้นกลุ่มหลัก นักลงทุนก็ยังวนเวียนเก็งกำไรหุ้นกลุ่มแบงก์ และสื่อสาร ก่อนจะเริ่มกลับมาซื้อหุ้นกลุ่มปิโตรเคมีช่วงปลายสัปดาห์ ขณะที่หุ้นตัวเล็กเริ่มมีการทยอยจุดพลุราคาขึ้นมาหลายตัว โดยเจ้ามืออาจฉวยโอกาสภาวะตลาดฟื้นสร้างข่าว และสร้างราคาล่อรายย่อย ซึ่งนักลงทุนจจะต้อระมัดระวังตัวเอง
แนวโน้มตลาดสัปดาห์นี้มีโอกาสขึ้นต่อ โดยปัจจัยตัวแปรที่สำคัญคือ มาตรการสกัดค่าเงินบาท ปัจจัยรองคือ สถานการณ์การเมืองที่ร้อนขึ้นทุกที ปัญหาในเชิงกลยุทธ์คือ การเลือกเฟ้นหุ้น เพราะแม้แนวโน้มดัชนีจะขยับต่อแต่จะเลือกเล่นหุ้นอะไรเท่านั้น ซึ่งเลือกยากขึ้นทุกทีเพราะขึ้นมาแรงในทุกกลุ่มแล้ว
นอกจากนั้น ราคาหุ้นระดับนี้นักลงทุนทั่วไปก็หันมารอจังหวะขายมากกว่าซื้อถ้าต่างชาติไม่บุกต่ออาจถึงจุดที่พักยก
ตลาดหุ้นสัปดาห์ที่ผ่านมากลับสู่บรรยกาศการซื้อขายที่คึกคัก ดัชนีไต่ระดับขึ้นต่อเนื่อง และมีโอกาสที่ขึ้นไปแตะระดับสูงสุดเดิมที่ 1,600 จุด เพราะแม้จะไมมีข่าวดีกระตุ้น แต่ก็ไม่มีข่าวร้ายรบกวน นอกจากต้องจับตามาตรการสักดกั้นค่าเงินบาทที่แข็ง ซึ่งอาจทำให้ตลาดหุ้นเกิดความผันผวนได้เท่านั้น
ดัชนีเมื่อวันศุกร์ปิดที่ 1,582.93 จุด เพิ่มขึ้น 8.68 จุด มูลค่าซื้อขาย 54,546 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 2,747 ล้านบาท
ความเคลื่อนไหวของต่างชาติไม่อาจจับทืศทางได้ เพราะช่วงกลางสัปดาห์เทขายหนัก ตามกระแสค่าเงินบาทที่อ่อนตัว แต่วันศุกร์กลับมาซื้อ ทำให้ไม่สามารถประเมินกลยุทธ์ของต่างชาติได้ ซึ่งต้องรอดูมาตรการสกัดค่าเงินบาท เพราะจะเป็นตัวกำหนดว่าต่างชาติจะสู้หรือถอย
ส่วนหุ้นที่มีความเคลื่อนไหวหวือหวารอบสัปดาห์ที่ผ่านมาคือ ซีพีออลล์ โดยหลังมีข่าวซื้อหุ้นสยามแม็คโครแล้วราคาก็ทรุดหนัก โดยคาดว่าต่างชาติถล่มขาย แต่ก็มีแรงซื้อจากในประเทศเข้าไปยันจนช่วงปลายสัปดาห์ฟื้นตัวขึ้นมา ทั้งที่ยังไม่อาจประเมินแนวโน้มผลดำเนินงานของซีพีออลล์ได้ แต่นัลงทุนรายย่อยที่เห็นว่าราคาปรับตัวลงมาลึกจึงแห่เข้าไปเก็งกำไร ทั้งทีซีพีออลล์จะต้องรอประเมินผลดำเนินงานอีกระยะหนึ่ง
สำหรับหุ้นกลุ่มหลัก นักลงทุนก็ยังวนเวียนเก็งกำไรหุ้นกลุ่มแบงก์ และสื่อสาร ก่อนจะเริ่มกลับมาซื้อหุ้นกลุ่มปิโตรเคมีช่วงปลายสัปดาห์ ขณะที่หุ้นตัวเล็กเริ่มมีการทยอยจุดพลุราคาขึ้นมาหลายตัว โดยเจ้ามืออาจฉวยโอกาสภาวะตลาดฟื้นสร้างข่าว และสร้างราคาล่อรายย่อย ซึ่งนักลงทุนจจะต้อระมัดระวังตัวเอง
แนวโน้มตลาดสัปดาห์นี้มีโอกาสขึ้นต่อ โดยปัจจัยตัวแปรที่สำคัญคือ มาตรการสกัดค่าเงินบาท ปัจจัยรองคือ สถานการณ์การเมืองที่ร้อนขึ้นทุกที ปัญหาในเชิงกลยุทธ์คือ การเลือกเฟ้นหุ้น เพราะแม้แนวโน้มดัชนีจะขยับต่อแต่จะเลือกเล่นหุ้นอะไรเท่านั้น ซึ่งเลือกยากขึ้นทุกทีเพราะขึ้นมาแรงในทุกกลุ่มแล้ว
นอกจากนั้น ราคาหุ้นระดับนี้นักลงทุนทั่วไปก็หันมารอจังหวะขายมากกว่าซื้อถ้าต่างชาติไม่บุกต่ออาจถึงจุดที่พักยก
