“ยันฮี” อัดงบลงทุน 50 ล้านบาท เตรียมเปิดศูนย์ศัลยกรรมตกแต่งทางนรีเวชแห่งแรกของเอเชีย พุ่งเป้าเจาะตลาดหญิงไทย-ต่างชาติ พร้อมรองรับตลาดเมดิคัลทัวริสซึม
นพ.สุพจน์ สัมฤทธิวณิชชา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลยันฮี เปิดเผยว่า ได้ทุ่มงบประมาณ 50 ล้านบาท เปิดศูนย์ศัลยกรรมตกแต่งทางนรีเวช (ศูนย์จุดซ่อนเร้น) ถือเป็นโรงพยาบาลแรกในเอเชียที่เปิดศูนย์นี้ เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายผู้หญิงทั้งใน และต่างประเทศที่กังวลปัญหาจุดซ่อนเร้นให้มารับคำปรึกษา และรักษาได้แบบเป็นส่วนตัวขึ้น โดยได้นำเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดมาใช้ เช่น เลเซอร์กระชับจุดซ่อนเร้นไม่ต้องผ่าตัด รวมทั้งส่งแพทย์ไปศึกษาเทคนิคเพิ่มเติมจากสถาบันที่เชี่ยวชาญด้านนี้ในอเมริกา
ขณะที่ปลายปีนี้เตรียมทุ่มงบอีก 100 ล้านบาท เปิดศูนย์ผ่าตัดข้อเข่า และสะโพกเทียม เจาะตลาดสวีเดน เบลเยียม และประเทศอื่นในยุโรปด้วย
ทั้งนี้ ตั้งเป้าหมายว่าปีแรกศูนย์จุดซ่อนเร้นจะมีผู้ใช้บริการ 1,000 คนต่อเดือน หรือ 1.2 หมื่นคนต่อปี สร้างรายได้ 5% ของรายได้รวมทั้งโรงพยาบาลที่คาดว่าปีนี้จะมี 1,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากปีที่ผ่านมาที่มีกว่า 1,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังช่วยย้ำภาพลักษณ์ของยันฮีในการเป็นผู้นำด้านความงามแบบครบวงจร ตั้งแต่ศีรษะจดเท้า รวมทั้งตอบสนองนโยบายรัฐบาลที่ต้องการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและการแพทย์ (เมดิคัลทัวริสซึม)
สำหรับภาพรวมตลาดต่างชาติมาใช้บริการเมดิคัลทัวริสซึมในไทยนั้น พบว่า สร้างรายได้ 2 แสนล้านบาทต่อปี โดย 10% หรือ 2 หมื่นล้านบาท มาจากค่ารักษาพยาบาล และมั่นใจว่าเมดิคัลทัวริสซึมของไทยจะมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง เพราะมีจุดแข็งด้านบุคลากรให้บริการดี มีอัธยาศัยดี แหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย ขณะที่การแพทย์ได้รับความเชื่อถือ โดยที่ค่ารักษาพยาบาลในไทยยังถูกกว่า เมื่อเทียบกับในสหรัฐอเมริกา แคนาดาถึง 10 เท่า นอกจากนี้ ยังถูกกว่าสิงคโปร์ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นเช่นกัน จะแพงกว่าก็เพียงอินเดีย
ในส่วนของยันฮี ปีที่ผ่านมามีผู้ใช้บริการชาวต่างชาติอยู่ที่ 30% ของผู้ใช้บริการรวม โดยบริการที่ได้รับความนิยมที่สุด คือ เสริมจมูก รองลงมาได้แก่ ทำตาสองชั้น ตัดกราม เสริมหน้าอก ดูดไขมัน และจัดฟันเพื่อความสวยงาม หลังจากนี้คงจับมือกับบริษัทนำเที่ยวทั้งใน และต่างประเทศทำตลาดดึงชาวต่างชาติมาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง
