ประธานชมรมคนออมเงิน “สุวรรณ วลัยเสถียร” แนะสูตรจัดพอร์ตเงินในสถานการณ์เสี่ยงสูง ควรกระจายเงินลงทุนออกไป อย่านำเอาเงินเก็บไปลงทุนกับสินทรัพย์อย่างใดอย่างหนึ่ง ยอมรับช่วง 1-2 ปีนี้ “ตลาดการเงิน” ผันผวนมาก และมีความเสี่ยงสูง
นายสุวรรณ วลัยเสถียร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และประธานชมรมคนออมเงิน กล่าวว่า การนำเอาเงินเก็บไปลงทุนกับสินทรัพย์อย่างใดอย่างหนึ่ง ในช่วงที่ตลาดการเงินผันผวนมาก มีความเสี่ยงสูง ในระยะ 1-2 ปีนี้ควรกระจายการลงทุน แนะนำสำหรับคนทั่วไป แนะให้จัดสรรเงินออมไปลงทุนได้ ดังนี้ ทองคำ ไม่เกิน 10-15% หุ้นประมาณ 30-40% หุ้นกู้อย่างน้อย 20% อสังหาริมทรัพย์ 15-20% ที่เหลือคือเงินสดหรือฝากแบงก์ 10-15%
“ส่วนคนที่ชอบเสี่ยง อาจจะลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้น เพิ่มขึ้น ส่วนคนที่ไม่ชอบเสี่ยงรับไม่ได้กับการที่เงินต้นหดหาย แนะนำเพิ่มสัดส่วน หุ้นกู้ หรือเงินสด”
สำหรับราคาทองคำ มองว่าราคาทองตอนนี้ยังไม่มีปัจจัยอะไรฉุดราคาทองให้หลุดระดับ 18,000 บาท ให้เหตุผลว่า ถ้าย้อนไป 25 ปีที่แล้ว ราคาทองนิ่งยาวเป็น “ทองช้าง” บางคนซื้อไว้ที่บาทละ 400 บาท กลุ่มคนที่มีทองเก่ายังมีมหาศาล นั่นหมายความว่า แรงขายยังมีอยู่ ประกอบกับ 12 ปีที่ผ่านมา ราคาทองขาขึ้นแทบจะไม่มีลง ประกอบกับคนที่ซื้อขายทองล่วงหน้า ยิ่งทำให้ทิศทางทองคำใน 1-2 ปีนี้ ไม่สดใส
ดังนั้น จึงไม่แนะนำให้เอาเงินเก็บลงทุนกับทองเพียงอย่างเดียว ราคาทองในตอนนี้มีโอกาสลงมากกว่าขึ้น มีคำแนะนำสังเกตราคาทอง คือ 1.ถ้าราคานิ่งอยู่ที่กรอบ 18,000-19,000 บาท ประมาณ 1 เดือน ราคามีโอกาสปรับตัวขึ้น 2.ถ้าราคาทองผันผวน ขึ้นๆ ลงๆ โอกาสขาลงค่อนข้างสูง และขาลงเที่ยวนี้ “อาจจะยาวเป็นท้องช้าง”
ส่วนหุ้น และหุ้นกู้-พันธบัตร นายสุวรรณ มองว่า เมื่อดูนโยบายรัฐร่วมกับการคาดเดาทิศทางแบงก์ชาติแล้ว อัตราดอกเบี้ยน่าจะต่ำอีกนาน ทำให้หุ้นกู้-พันธบัตร ได้รับผลตอบแทนต่ำ ประกอบกับต้องเสียภาษีดอกเบี้ยรับที่ 15% จึงไม่น่าลงทุนเมื่อเทียบกับหุ้น
ทั้งนี้ ประเทศไทยการเมืองนิ่ง เศรษฐกิจขยายตัว ว่างงานต่ำ คนมีงานทำเลยมีกำลังซื้อ กิจการมีผลกำไรดี ภาวะเศรษฐกิจแบบนี้สะท้อนว่าหุ้นมีโอกาสปรับขึ้นได้ในระยะยาว
ส่วนอสังหาริมทรัพย์ที่มีข่าวฟองสบู่ นายสุวรรณ กล่าวว่า ห่วงฟองสบู่ตามหัวเมืองมากกว่า โดยเฉพาะที่สร้างแล้วขายไม่ออก แนะนำคนที่จะลงทุนเก็งกำไรอสังหาฯ ต้องระวังเรื่องปล่อยยาก ใช้เวลานาน ขณะที่เงินสด และเงินฝากถ้ามองแบบนักการเงิน 7-8 ปีที่ผ่านมา ฝากแบงก์ขาดทุนเพราะดอกเบี้ยต่ำกว่าเงินเฟ้อ
นอกจากนี้ นายสุวรรณ ยังมองว่า เงินสดก็ถือเป็นการลงทุนรูปแบบหนึ่ง แต่เป็นการลงทุนที่รอจังหวะและโอกาส เข้าถูกจังหวะก็มีผลต่อผลตอบแทนในอนาคต แนะควรใช้หลัก ออม 20 ใช้ 80 และแนะรัฐบาลสนับสนุนให้คนไทยเลิกเล่นอบายมุขทุกชนิด ซึ่งจะเป็นการวางรากฐานวัฒนธรรมการออม สร้างความมั่นคงในชีวิต ต่อยอดการทำธุรกิจ และแก้ปัญหาความยากจนได้ในระยะยาว