ผวา TFEX ป่วน! หลังตลาดสินค้าโภคภัณฑ์โลกผันผวนหนัก แนะผู้ลงทุนติดตามราคาทองคำ-โลหะเงิน-น้ำมันดิบ เพราะราคาปิดเมื่อ 12 เม.ย. ต่างกันสูงมาก ลั่นหากฟิวเจอร์สที่อ้างอิงดังกล่าว ผันผวนเกิน 10% เตรียมสั่งพักการซื้อขาย 30 นาที เพื่อให้ทบทวน ก่อนขยายเพดานเพิ่มเป็น 20% ในรอบถัดไป ด้านวายแอลจีหวั่นนักลงทุนตระหนก ราคาทองดิ่งลงลึกในรอบ 30 ปี
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการผู้จัดการ บมจ.ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) เปิดเผยว่า ในช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ สินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกทั้งทองคำ โลหะเงิน และน้ำมันดิบมีการซื้อขายผันผวนสูง และมีราคาลดต่ำลงอย่างมาก คาดว่าเมื่อตลาดไทยเปิดซื้อขายวันแรกในวันที่ 17 เมษายน 2556 นี้ ราคาสัญญาฟิวเจอร์สที่อ้างอิงกับราคาสินค้าดังกล่าวอาจปรับลดลงตามตลาดโลกที่ในช่วงต้นสัปดาห์การลงทุนในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์มีการลดลงอย่างมาก
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2556 ที่ผ่านมา ราคาโกลด์ฟิวเจอร์ส ที่ซื้อขายในตลาด COMEX นิวยอร์ก ซึ่งเป็นตลาดที่ซื้อขายโกลด์ฟิวเจอร์สที่สำคัญ มีการปรับลดลงกว่า 140 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอย์ออนซ์ หรือลดลงประมาณร้อยละ 9.4 ซึ่งถือเป็นการลดลงของราคาภายในวันเดียวกันมากที่สุดในรอบ 30 ปี ขณะที่สินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ มีความผันผวน และมีราคาลดลงเช่นกัน
ส่วนโกลด์ฟิวเจอร์สในตลาด TFEX เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2556 ซึ่งเป็นวันทำการสุดท้ายก่อนวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ มีราคาที่ใช้ชำระราคาประจำวันอยู่ที่ 21,370 บาทต่อทองคำน้ำหนัก 1 บาท ซึ่งราคาทองคำในตลาดลอนดอน หรือ LBMA (AM) ในช่วงดังกล่าวอยู่ที่ 1,548 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ส่วนราคาทองคำในตลาดล่วงหน้า COMEX (สัญญาส่งมอบเดือนเมษายน) ปิดที่ 1,501 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ และวันที่ 15 เมษายน 2556 ทั้งตลาดลอนดอน และตลาด COMEX ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง โดยปิดที่ 1,416 และ 1,360.60 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ตามลำดับ ขณะที่ตลาด TFEX นั้นหยุดทำการตั้งแต่วันที่ 15-16 เมษายน 2556 นี้ รวมทั้งสมาคมค้าทองคำได้ประกาศหยุดทำการในช่วงเดียวกัน
“จากการปรับตัวลดลงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกติดต่อกันในช่วง 2 วันทำการที่เป็นวันหยุดเทศกาลในไทย ทำให้ราคาที่ซื้อขายของทองคำ โลหะเงิน และน้ำมันดิบ ในวันทำการแรกของสัปดาห์ หรือวันที่ 17 เมษายน 2556 นี้ อาจมีค่าแตกต่างจากราคาเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2556 ค่อนข้างมาก และอาจส่งผลกระทบต่อผู้ลงทุนที่มีสถานะคงค้างด้านซื้อในวันที่ 12 เมษายน ดังนั้น ผู้ลงทุนควรติดตามความเคลื่อนไหวของราคาสินค้าดังกล่าวทั้งทองคำ โลหะเงิน และน้ำมันดิบ พร้อมทั้งตรวจสอบความเพียงพอของเงินหลักประกัน และปรับพอร์ตให้เหมาะสมกับความผันผวนของสินค้าโภคภัณฑ์”
นางเกศรา กล่าวว่า หากฟิวเจอร์สที่อ้างอิงราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ทองคำ โลหะเงิน และน้ำมันดิบ มีราคาเปลี่ยนแปลง เพิ่มขึ้น หรือลดลงถึงร้อยละ 10 จากราคาที่ใช้ชำระราคาล่าสุด คือ วันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา ตลาด TFEX จะหยุดการซื้อขายชั่วคราวเป็นเวลา 30 นาที เพื่อให้ผู้ลงทุนได้ทบทวนคำสั่งซื้อขายของตนเอง และตรวจสอบสภาพแวดล้อม และความเคลื่อนไหวของราคาก่อนที่จะเปิดให้ซื้อขายอีกครั้ง พร้อมกับการขยายช่วงการเปลี่ยนแปลงราคาเป็นเพิ่มขึ้น หรือลดลงร้อยละ 20 ของราคาที่ใช้ชำระราคาล่าสุด เมื่อวันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา โดยราคาสูงสุดและต่ำสุดของวันที่ฟิวเจอร์สของทองคำ โลหะเงิน และน้ำมันจะเคลื่อนไหวได้คือ เพิ่มขึ้นหรือลดลงร้อยละ 20
และเพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนสามารถปรับเปลี่ยนสถานะของตนได้อย่างสะดวกมากขึ้น TFEX จะปรับปรุงแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับรายการการซื้อขายรายใหญ่ หรือ block trade ของ gold futures โดยกำหนดจำนวนขั้นต่ำของการซื้อขาย เป็นตั้งแต่ 1 สัญญา จากเดิมที่กำหนดขั้นต่ำไว้ที่ 100 สัญญา โดยอนุญาตเป็นการชั่วคราวระหว่างวันที่ 17-19 เมษายน 2556 นี้ ของการซื้อขายในช่วงเวลาการซื้อขายเช้าและบ่าย
ด้าน น.ส.ฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยนแอนด์ ฟิวเจอร์ กล่าวว่า ราคาทองคำช่วงสงกรานต์ในตลาดโลดลดลงอย่างรุนแรงจากราคาเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2556 ซึ่งอยู่ที่ 1,580 ดอลลาร์ต่อออนซ์ มาอยู่ที่ 1,320 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือลดลง 260 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่เนื่องจากสมาคมค้าทองคำ และตลาดอนุพันธ์ปิดทำการในช่วงวันหยุดสงกรานต์ระหว่างวันที่ 13-16 เมษายน และจะเปิดทำการอีกครั้งวันพรุ่งนี้ (17 เม.ย.) ทำให้นักลงทุนยังไม่สามารถซื้อขายทองคำได้
ทั้งนี้ คาดว่าวันพรุ่งนี้นักลงทุนบางส่วนอาจจะอยู่ในสถานการณ์ตื่นตระหนกจากการปรับลดลงแรงของราคาทองคำในช่วงนี้ ซึ่งถือเป็นการปรับลดลงแรงที่สุดตั้งแต่ปี 2526 หรือในรอบ 30 ปี คาดว่า สมาคมค้าทองคำจะประกาศราคาทองในราคาต่ำกว่า 20,000 บาท โดยอาจจะถึง 18,000 บาทต่อบาททองคำ เพราะราคาตลาดโลกร่วงลงแรงมาก
อย่างไรก็ตาม ขอให้นักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์ไปก่อน โดยให้แนวรับของราคาทองไว้ที่ 1,300 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ซึ่งหากทองยืนอยู่ได้ ก็มีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวได้ เนื่องจากราคาทองลดลงเร็วมาก แต่หากรับไม่อยู่ก็จะไปที่แนวรับ 1,250 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ โดยราคาทองในช่วงนี้ปรับลดลงแรงวันละประมาณ 50-70 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จึงขอให้นักลงทุนอย่าตื่นตระหนก และรอดูสถานการณ์ก่อน
ส่วนสาเหุตที่ราคาทองคำลดลงแรงในช่วงนี้นั้น เนื่องจากมีข่าวว่าธนาคารกลางของไซปรัสเตรียมขายทองคำที่ถืออยู่ 13 ตัน เพื่อระดมทุน 400 ล้านยูโร เพื่อแก้วิกฤตหนี้ ทำให้เกิดความวิตกว่าธนาคารกลางของอิตาลีที่ถือทองคำอยู่ 2,000 ตัน กรีซ และโปรตุเกสถือทองคำรวมกัน 300 ตัน อาจจะเทขายทองคำออกมาเช่นกัน ประกอบกับ กองทุนต่างๆ ได้เทขายทองคำออกมาก่อนหน้านี้ ซึ่งยิ่งเป็นการซ้ำเติมทำให้ราคาทองคำลดลงต่อเนื่อง จนหลุดแนวรับสำคัญที่ 1,530 และ1,400 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ลงมา