อาคารก่อสร้างอพาร์ตเมนต์ 8 ชั้น หลังห้างเซียร์ รังสิต ทรุดเอียง 10-12 องศา หวั่นตึกถล่ม ผอ.กองช่างสั่งหยุดดำเนินการก่อสร้างเพื่อรอการตรวจสอบ เชื่ออาคารจะยังไม่ถล่มลงมา จนท. และคนงานเร่งเก็บป้ายประกาศที่ระบุชื่อบริษัทก่อสร้าง และชื่อของเจ้าของโครงการออกไปจนหมด พร้อมปัดตอบทุกคำถาม “เอเชียโฮเต็ล” เจ้าของโครงการระบุต้องตรวจสอบอาคารอีกครั้ง วสท. ชี้มีแนวโน้มต้องทุบทิ้ง AREA ชี้จุดบกพร่องอาคารอพาร์ตเมนต์ทรุด
เมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุอาคารสูง 8 ชั้น ซึ่งอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ตั้งอยู่บริเวณติดกับลานจอดรถหลังห้างเซียร์ รังสิต ม.8 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ได้เกิดการเอียงตัวอย่างน่ากลัว จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ
เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปถึงพบว่า สถานที่ก่อสร้างดังกล่าวกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่สูง 8 ชั้น จำนวน 2 อาคาร โดยพบว่า อาคารหลังแรกซึ่งอยู่ทางด้านทิศเหนือนั้นไม่มีความผิดปกติแต่อย่างใด ส่วนอาคารหลังที่ 2 ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 40 เมตร ได้เกิดการเอียงตัวอย่างน่าตกใจ โดยลักษณะการเอียงของตัวอาคารนั้นจะเอียงไปทางด้านทิศเหนือซึ่งจะใกล้กับอาคารหลังที่ 1 ส่วนทางด้านทิศใต้ของอาคารที่เอียงตัวนั้นเป็นหมู่บ้านภุมรินทร์ ซึ่งเป็นหมู่บ้านหรูราคาหลายล้านบาท
หลังเกิดเหตุ นายณรงค์ อู่ทรัพย์ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองคูคต พร้อมด้วย นายนเรศ ศรีเมือง ผู้อำนวยการกองช่าง เทศบาลเมืองคูคต ได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดย นายนเรศ เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งว่าอาคารหลังดังกล่าวซึ่งอยู่ในระหว่างการก่อสร้างเกิดการเอียงตัว แต่ยังไม่ถึงกลับถล่มลงมา จากการตรวจสอบพบว่า อาคารเอียงตัวประมาณ 10-12 องศา เบื้องต้นคงยังไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ว่าสาเหตุที่อาคารเกิดการเอียงตัวเกิดจากสาเหตุอะไร เนื่องจากเป็นช่วงเวลากลางคืน เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย
ทั้งนี้ การก่อสร้างอาคารดังกล่าวได้มีการขออนุญาตก่อสร้างอย่างถูกต้องต่อทางเทศบาล และดำเนินการก่อสร้างมานานกว่า 1 ปีแล้ว ส่วนรายละเอียดว่าใครเป็นเจ้าของ หรือบริษัทอะไรเป็นผู้ดำเนินการก่อสร่างนั้น ขณะนี้คงยังไม่สามารถให้รายละเอียดได้ โดยในขณะนี้ได้ประสานงานไปยังผู้เกี่ยวข้องแล้วว่าให้หยุดดำเนินการก่อสร้างเพื่อรอการตรวจสอบ และจนถึงขณะนี้ยังเชื่อว่าอาคารจะยังไม่ถล่มลงมา อย่างไรก็ตาม เพื่อความปลอดภัยได้กั้นบริเวณดังกล่าวเอาไว้แล้ว และห้ามเข้าใกล้อย่างเด็ดขาด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุได้มีเจ้าหน้าที่ และคนงานที่อยู่ในบริเวณก่อสร้างได้ทำการเก็บป้ายประกาศที่ระบุชื่อบริษัทที่ดำเนินการก่อสร้าง และชื่อของเจ้าของโครงการออกไปจนหมด และเมื่อสอบถามก็ไม่มีผู้ใดให้ข้อมูลแต่อย่างใด
“เอเชียโฮเต็ล” ระบุต้องตรวจสอบอาคารอีกครั้ง
ด้านนายกำพล เตชะหรูวิจิตร ประธานกรรมการและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอเชียโฮเต็ล จำกัด (มหาชน) หรือ ASIA กล่าวว่า อาคารหอพักที่สร้างใหม่ทรุด ซึ่งอาคารดังกล่าวเป็นทรัพย์สินของบริษัท เซียร์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 22.00-23.00 น. เมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา สถานที่เกิดเหตุเป็นอาคารหอพักสูง 8 ชั้น ตั้งอยู่ด้านหลังอาคารศูนย์การค้าเซียร์ รังสิต จากการตรวจสอบในเบื้องต้น นอกจากสภาพอาคารเอียงแล้ว สภาพทั่วไปยังแข็งแรงสมบูรณ์ แต่ยังต้องตรวจสอบทั้งหมดอีกครั้ง
ทั้งนี้ ไม่มีบุคคลใดได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตแต่อย่างใด เพราะอาคารยังไม่มีการเปิดใช้งาน และเหตุเกิดเวลากลางคืน อีกทั้งบริษัทมีประกันภัยก่อสร้าง และอยู่ระหว่างประสานงาน หากมีความคืบหน้าประการใดจะรายงานให้ทราบอีกครั้ง
วสท. ชี้มีแนวโน้มต้องทุบทิ้ง
ขณะที่ ผู้ว่าฯ จังหวัดปทุมธานี ได้สั่งการให้เทศบาลเมืองคูคตตรวจสอบการทรุดตัวของอาคาร 8 ชั้น หลังห้างสรรพสินค้าเซียร์ รังสิต จ.ปทุมธานี เป็นระยะ เพื่อสังเกตการณ์ว่าจะมีการทรุดตัวเพิ่มหรือไม่ ล่าสุด จากการตรวจวัดการเอียงของตึกเอียงไปทางทิศเหนือประมาณ 10 องศา และไม่ทรุดตัวเพิ่มแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม มีการประกาศให้เป็นพื้นที่อันตราย ห้ามผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าใกล้อย่างเด็ดขาด และให้ระงับการก่อสร้างทั้งหมด เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอย่างละเอียด
ขณะที่วิศวกรจากสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (วสท.) ได้เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ โดยใช้เครื่องเอกซเรย์ตรวจสอบฐานราก และตัวอาคารว่าจะยกให้ตรงได้หรือไม่ แต่มีแนวโน้มว่าจะต้องทุบตัวอาคารทิ้ง
AREA ชี้จุดบกพร่องอาคารอพาร์ตเมนต์ทรุด
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด กล่าวเสริมว่า อาคารนี้มีขนาดประมาณ 10,000 ตารางเมตร ค่าก่อสร้างเป็นเงินประมาณ 100 ล้านบาท แต่อาคารตามสภาพก่อนชำรุดน่าจะก่อสร้างไปแล้วประมาณ 70% เพราะงานโครงสร้างแล้วเสร็จแล้ว กำลังอยู่ระหว่างดำเนินงานสถาปัตยกรรม และงานระบบประกอบอาคาร เป็นเงินความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 70 ล้านบาท หากแล้วเสร็จอาคารนี้น่าจะสามารถให้เช่าได้เป็นเงินปีละ 9.984 ล้านบาท (8 ชั้นๆ ละ 20 ห้องๆ ละ 50 ตารางเมตร เป็นเงินห้องละ 6,500 บาท โดยมีรายได้สุทธิ 80%) หรือมีมูลค่าประมาณ 142.6 ล้านบาท (ณ อัตราผลตอบแทนที่ 7%) ทั้งนี้ เงินจำนวนนี้เป็นเพียงการประมาณการเพราะไม่มีผังอาคารประกอบการประเมิน
“ในการนี้จำเป็นต้องรื้อถอนทั้งอาคาร โดยค้ำอาคารด้านทิศเหนือไว้ แล้วค่อยๆ รื้อถอนทีละชั้น เพื่อความปลอดภัยของอาคารรอบข้าง อย่างไรก็ตาม ในกรณีอาคารอีกหลังหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายกัน คงต้องมีการตรวจสอบสภาพโดยละเอียดก่อนการใช้งาน”
สำหรับสาเหตุของการทรุดตัวนี้อาจมีตั้งแต่ปัญหาในขั้นตอนการออกแบบ หรือในขั้นตอนการก่อสร้าง และการควบคุมก่อสร้างอาคาร ทั้งนี้ ก่อนหน้าที่ดินแปลงนี้จะนำมาใช้เป็นอพาร์ตเมนต์นั้น ที่ดินแปลงดังกล่าว มีสภาพเป็นหนองน้ำ และอยู่ในบริเวณที่ถูกน้ำท่วมขังในช่วงปี พ.ศ.2554 อีกด้วย