กองทุนลุย
ภาวะการลงทุนสัปดาห์นี้เป็นหนังคนละม้วนจากสัปดาห์ก่อน โดยเพียงช่วง 2 วันทำการดัชนีบวกกว่า 60 จุด หรือฟื้นตัวกลับขึ้นมากว่าครึ่งสำหรับการปรับตัวรอบใหญ่สัปดาห์ก่อน และดูเหมือนว่านักลงทุนจะลืมความผันผวนไปแล้ว และทยอยกลับเข้ามาเก็งกำไรกันเหมือนเดิม ทั้งที่สถานการณ์แวดล้อมยังไม่สดใสนัก เนื่องจากใกล้ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ขณะที่สถานการณ์การเมืองมีแนวโน้มร้อนระอุรอบใหม่
ดัชนีวันนี้ปิดที่ 1,544.03 จุด เพิ่มขึ้น 20.08 จุด มูลค่าซื้อขายทั้งสิ้น 60,787 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 668 ล้านบาท
แรงซื้อที่โถมเข้ามา 2 วันติดเกิดจากนักลงทุนสถาบัน ซึ่งคาดว่าเป็นกองทุนทริกเกอร์ ฟันด์ ที่ออกกองใหม่ แต่กองทุนก็มีแรงซื้อที่จำกัด ปัญหาจึงอยู่ที่ว่าจะมีแรงซื้อจากนักลงทุนกลุ่มอื่นเข้ามาหนุนอีกหรือไม่ ซึ่งคงจะหวังได้จากต่างชาติเท่านั้น เพราะรายย่อยยังขวัญผวากับการปรับฐานรอบใหญ่อยู่ และคงไม่กล้าผลีผลามบุกตะลุยซื้อ
หุ้นขนาดเล็ก และขนาดกลางแม้ยังจุดพลุเก็งกำไรกันต่อ แต่รายย่อยก็ไม่ฮึกเหิมตามแห่เท่าไหร่เพราะกลัวติดยอดดอย แรงขับเคลื่อนขาขึ้นรอบนี้จึงเกิดจากหุ้นขนาดใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มสื่อสารซึ่งกลับมาเก็งกำไรในการเปิดบริการ 3 จีกันอีกครั้ง ซึ่งหากกลุ่มพลังงานฟื้นกลับแรงก็สามารถผลักดันให้ดัชนีพุ่งทะยานได้ต่อจนมีสิทธิแตะ 1,600 จุดอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม บทเรียนในสัปดาห์ก่อนนักลงทุนรายย่อยต้องระวังเพราะหากมุ่งแต่เก็งกำไรโดยไม่เลือกเฟ้นตัวหุ้น ไม่คำนึงถึงปัจจัยพื้นฐานรองรับ และชอบตามแห่หุ้นปั่นก็มีสิทธิเจ็บหนัก เพราะเกิดความผันผวนอีก หุ้นร้อนรูมหาราชก่อนเสมอ
แนวโน้มตลาดยังไม่มีอะไรน่ากังวล สิ่งที่ควรกัวลคือ การเลือกหุ้นที่จะลงทุนเท่านั้น ถ้าปล่อยให้อารมณ์เก็งกำไรครอบงำมีโอกาสพลาดได้
ภาวะการลงทุนสัปดาห์นี้เป็นหนังคนละม้วนจากสัปดาห์ก่อน โดยเพียงช่วง 2 วันทำการดัชนีบวกกว่า 60 จุด หรือฟื้นตัวกลับขึ้นมากว่าครึ่งสำหรับการปรับตัวรอบใหญ่สัปดาห์ก่อน และดูเหมือนว่านักลงทุนจะลืมความผันผวนไปแล้ว และทยอยกลับเข้ามาเก็งกำไรกันเหมือนเดิม ทั้งที่สถานการณ์แวดล้อมยังไม่สดใสนัก เนื่องจากใกล้ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ขณะที่สถานการณ์การเมืองมีแนวโน้มร้อนระอุรอบใหม่
ดัชนีวันนี้ปิดที่ 1,544.03 จุด เพิ่มขึ้น 20.08 จุด มูลค่าซื้อขายทั้งสิ้น 60,787 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 668 ล้านบาท
แรงซื้อที่โถมเข้ามา 2 วันติดเกิดจากนักลงทุนสถาบัน ซึ่งคาดว่าเป็นกองทุนทริกเกอร์ ฟันด์ ที่ออกกองใหม่ แต่กองทุนก็มีแรงซื้อที่จำกัด ปัญหาจึงอยู่ที่ว่าจะมีแรงซื้อจากนักลงทุนกลุ่มอื่นเข้ามาหนุนอีกหรือไม่ ซึ่งคงจะหวังได้จากต่างชาติเท่านั้น เพราะรายย่อยยังขวัญผวากับการปรับฐานรอบใหญ่อยู่ และคงไม่กล้าผลีผลามบุกตะลุยซื้อ
หุ้นขนาดเล็ก และขนาดกลางแม้ยังจุดพลุเก็งกำไรกันต่อ แต่รายย่อยก็ไม่ฮึกเหิมตามแห่เท่าไหร่เพราะกลัวติดยอดดอย แรงขับเคลื่อนขาขึ้นรอบนี้จึงเกิดจากหุ้นขนาดใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มสื่อสารซึ่งกลับมาเก็งกำไรในการเปิดบริการ 3 จีกันอีกครั้ง ซึ่งหากกลุ่มพลังงานฟื้นกลับแรงก็สามารถผลักดันให้ดัชนีพุ่งทะยานได้ต่อจนมีสิทธิแตะ 1,600 จุดอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม บทเรียนในสัปดาห์ก่อนนักลงทุนรายย่อยต้องระวังเพราะหากมุ่งแต่เก็งกำไรโดยไม่เลือกเฟ้นตัวหุ้น ไม่คำนึงถึงปัจจัยพื้นฐานรองรับ และชอบตามแห่หุ้นปั่นก็มีสิทธิเจ็บหนัก เพราะเกิดความผันผวนอีก หุ้นร้อนรูมหาราชก่อนเสมอ
แนวโน้มตลาดยังไม่มีอะไรน่ากังวล สิ่งที่ควรกัวลคือ การเลือกหุ้นที่จะลงทุนเท่านั้น ถ้าปล่อยให้อารมณ์เก็งกำไรครอบงำมีโอกาสพลาดได้
